ร่วมแชร์นิยาย ให้กำลังใจนักเขียนกันเถอะ =D
Chapter 3
“สวัสดีครับคุณดิเอโก...
รู้สึกเป็นเกียรติจริงๆ ที่ได้ต้อนรับคุณที่นี่ฮ่าๆๆ”
เดฟหัวเราะเสียงดังลั่นเมื่อยามปรากฏกายตรงเชิงบันไดของตัวตึก
เสียงนั้นฉุดให้ดิเอโกและเควินที่ยืนจังก้าอยู่กลางโถงมีลูกน้องของเดฟ ห้อมล้อมเป็นด่านกักกั้นโดยรอบต่างพากันหันไปมองทันที
เดฟส่งสัญญาณให้ลูกน้องกระจายตัวออกแล้วก้าวลงมายืนเผชิญหน้ากับดิเอโกอย่างไม่หวั่นเกรง
“ฉันมารับตัวผู้หญิงของฉันคืน”
ดิเอโกเอ่ยทันที เจ้าพ่อใหญ่เช่นเขาไม่เคยเกรงกลัวคนอย่างเดฟแม้แต่นิด
และไม่เคยคิดจะล้ำเส้นให้เขม่นกันมากกว่าที่เป็นอยู่
แม้ตลอดเวลาเดฟจะคอยตั้งท่าหาเรื่องอยู่เนืองนิตย์
“โอ๊ว...
ว้าว! ผู้หญิงของคุณ ใครไม่ทราบครับคุณดิเอโก
ที่นี่มีแต่ผู้หญิงของผมเท่านั้น! ฮ่าๆๆ”
เดฟยังคงหัวเราะร่าราวกับว่ากำลังพูดคุยเรื่องขบขัน
แต่น้ำเสียงและสีหน้าท่าทางแสดงอาการเย้ยหยันดิเอโกสุดใจ
“นี่เงินของนายเอาคืนไปแล้วส่งตัวผู้หญิงของฉันคืนมา”
ดิเอโกโยนกระเป๋าในมือออกไปตรงหน้าเดฟ
ลูกน้องที่รุมล้อมระวังภัยขยับหมายเข้าชาร์ตตัวฝ่ายตรงข้ามแต่เดฟยกมือสั่งห้ามไว้
“ฮะ
ฮะ ฮ่า มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ ฉันอุตส่าห์ลงแข่งประมูลกว่าจะได้มา แต่นายกลับจะมาโยนเงินนี่ใส่หน้าฉันแล้วบอกให้ฉันส่งผู้หญิงคนนั้นให้นาย
ฝันไปไหมดิเอโก!” เดฟเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหยียดหยันเมื่อยามนี้ดิเอโกก็เหมือนลูกไก่จะบีบก็ตาย
จะคลายก็รอด
“นายต้องการเท่าไหร่ว่ามาสำหรับค่าเสียเวลาควักเงินออกจากกระเป๋านายเดฟ”
ดิเอโกยื่นคำขาดด้วยรู้ดีว่าต่อให้เจรจาด้วยดีคนอย่างเดฟก็ไม่มีวันยินยอมง่ายๆ
ถ้าไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ
เพราะฉะนั้นการกระชับตัดตอนให้เดฟเอื้อนเอ่ยออกมาโดยเร็วนั่นคือหนทางที่จะหลีกเลี่ยงการทำสงครามประสาทกับเดฟ
“ฮ่าๆๆๆ
นายกล้าแลกขนาดนั้นเชียวหรือดิเอโก ผู้หญิงคนนั้นสำคัญมากขนาดนั้นเชียว”
เดฟหัวเราะลั่นพลันดวงตาคู่ดุก็แปรเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวราวปีศาจร้ายทันควัน
“ฉันไม่มีเวลามาต่อปากต่อคำกับนาย
เดฟ! บอกมาต้องการเท่าไหร่
ฉันยินดีจ่ายเพื่อซื้อผู้หญิงของฉันคืน”
ดิเอโกย้ำคำดวงตาคมกล้าจ้องตอบดวงตาแข็งกร้าวของเดฟอย่างไม่หวาดหวั่น
“ว้าว!
สุดยอด เยี่ยม! ” เดฟดวงตาลุกวาวเมื่อได้ฟังคำ
เจ้าพ่อวายร้ายเบะปากทำหน้าเหยเกก่อนแสยะยิ้มยามยื่นหน้าเข้าไปเอ่ยวาจาแสนแสบทรวง
“แล้วถ้าผู้หญิงของนายกลายเป็นของเหลือเดนจากลูกน้องฉัน
นายก็ยังอยากได้คืนงั้นสิ”
“ระยำ!”
ดิเอโกสบถด่าลั่นอย่างไม่อาจระงับเปลวเพลิงโทสะอันร้อนแรงที่ลุกโชนขึ้นได้อีกต่อไป
ดวงตาคมกล้าจ้องเขม็งราวเตรียมพร้อมเข้าห้ำหั่นได้ทุกเมื่อ
ยิ่งได้ยินวาจาเสียดแทงใจในประโยคต่อมายิ่งเพิ่มความเคียดแค้นในใจให้ดิเอโกจนแทบไม่อาจอดกลั้นไหว
“ฮ่าๆๆๆ
มึงจะมาเป็นเดือดเป็นแค้นทำไมไอ้ดิเอโก ในเมื่อมึงขายผู้หญิงคนนั้นด้วยตัวมึงเอง ”
ยามนี้สองมือกำเข้าหากันแน่นอย่างพยายามเก็บกักอารมณ์โกรธที่อัดแน่นจนแทบปะทุ
ใบหน้าคมมองเห็นสันกรามนูนปูดยามดิเอโกขบกรามเก็บข่มอารมณ์โกรธที่พุ่งพล่านภายใน
“ไหนมึงพร่ำรำพันนักว่ามึงรักน้องกู
แล้วดูสิ่งที่มึงทำไอ้ดิเอโก!” เดฟตวาดกร้าวเมื่อดิเอโกเอาแต่นิ่งเงียบ
แต่ครั้งนี้ดิเอโกกลับตวาดกลับด้วยเสียงดังลั่นพอกัน
“ผู้หญิงคนนั้นไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้”
“แล้วน้องกูเกี่ยวข้องกับเรื่องของมึงตรงไหน
ไอ้ดิเอโก!” เดฟถลาเข้าหาพร้อมกระชากคอเสื้อดิเอโกเต็มแรงกำลังเมื่อไม่อาจทนเก็บกลั้นความแค้นที่ฝังแน่นในอกได้
“หยุด!
เควิน!” ดิเอโกยกมือสั่งห้ามบอดี้การ์ดหนุ่มที่ขยับเข้าหาเพื่อช่วยเหลือ
เควินได้จำต้องชะงักค้างอยู่เพียงเท่านั้นเมื่อเจ้านายไม่ให้ยุ่งเกี่ยว
ดวงตาสีน้ำทะเลมองผ่านแว่นกันแดดขนาดใหญ่จับจ้องระวังภัยไม่วางตา
“กูต้องทนดูน้องกูถูกย่ำยีต่อหน้า
ทนดูน้องกูถูกฆ่าก็เพราะมึง ไอ้ระยำ!” เดฟพ่นวาจาดุดันยามกระชากคอเสื้อดึงร่างดิเอโกเข้าใกล้
แต่ทว่าเจ้าพ่อวายร้ายต้องแทบกระอักเลือดเจียนตายเมื่อดิเอโกสวนกลับไม่ยั้งเช่นกัน
“ที่ดาราเดลเป็นแบบนั้นก็เพราะมีพี่เลวระยำแบบแกไงเดฟ”
“ไอ้ดิเอโก!”
เดฟชักปืนสั้นขนาดเล็กที่เหน็บเอวไว้ออกมาจ่อขมับ ดิเอโกด้วยแรงโทสะ
แต่ทว่าเจ้าพ่อคู่แค้นกลับจ้องตอบไม่ลดละเช่นกัน
เควินจับจ้องมองเหตุการณ์ตรงหน้านิ่งไม่ไหวติง
บอดี้การ์ดหนุ่มขบกรามแน่นจนเห็นเป็นสันนูนปูด
ดวงตาคู่สีน้ำทะเลตวัดสำรวจถ้วนทั่วอย่างรวดเร็วภายใต้ท่าทีสงบนิ่ง คำสั่งเด็ดเดี่ยวดังกึกก้องจนท่องได้ขึ้นใจ
ไม่ว่าวันนี้จะเป็นหรือตายเป้าหมายคือต้องชิงตัวสุพิชญากลับคืน
“เอาสิ!
ถ้านายคิดว่าฆ่าฉันแล้วคิดว่าดาราเดลจะสงบสุข”
ดิเอโกท้าทายอย่างไม่เกรงกลัว
เขารู้ดีคนอย่างเดฟหากจะใช้วิธีฆ่าเพื่อล้างแค้นคงทำไปนานแล้วและเขาคงไม่ต้องกังวลต่อสิ่งใด
แต่วิธีสกปรกที่เดฟชอบใช้ต่างหากคือภัยพิบัติที่น่ากลัว
“ฆ่าให้โง่น่ะสิ
คนอย่างมึงความตายยังน้อยไป ไอ้ดิเอโก!” เดฟแสยะยิ้มเหยียดหยันก่อนผลักดิเอโกออกห่างโดยแรงพร้อมตวาดกร้าวถึงสิ่งที่ต้องการ
“กูให้เวลามึงสามวัน
หากมึงอยากได้ผู้หญิงของมึงคืน เอาเดอะไนท์กับเกาะบาหลันมาแลก
ไม่งั้นมึงเตรียมรับซากกากเดนผู้หญิงของมึงได้เลย
ดิเอโก”
“บัดซบ!”
ดิเอโกสบถอย่างแค้นเคือง
เมื่อได้ฟังสิ่งแลกเปลี่ยนที่อีกฝ่ายต้องการ
เพียงแค่เดอะไนท์มันไม่ได้ทำให้เขาสะทกสะท้าน
แต่ว่าเกาะบาหลันต่างหากที่สั่นคลอนหัวใจของเขา ใครๆ ต่างก็รู้ว่าเกาะนั้นเขารักและหวงแหนมากแค่ไหน
และไม่เคยปล่อยให้ใครเข้าไปวุ่นวายได้ง่ายๆ
แต่ยามนี้เดฟเอามันมาต่อรองกับใครคนหนึ่งที่เขาต้องการตัวกลับคืน
“กิจการแค่นี้แลกกับมึงได้ผู้หญิงของมึงคืนไป
คงไม่ถึงตายหรอกมั้ง ฮ่าๆๆๆ” เดฟหัวเราะร่าอย่างสะใจเมื่อเวลาแห่งการแก้แค้นมาถึง
เวลาที่เขาจะได้ย่ำยีเกาะนั่น เกาะที่เป็นดังดวงใจของผู้ชายสารเลวที่ชื่อดิเอโก!
เขาไม่คิดว่ามันจะได้มาโดยง่ายทั้งที่วางแผนแทบตาย
แต่สบจะได้ก็ได้อย่างไม่ต้องลงแรง
“ซาอิค!
ส่งแขก”
เดฟสั่งด้วยเสียงกังวานกร้าว ยามจ้องสบตาดิเอโกที่ขบกรามกำหมัดแน่นอย่างเคืองแค้นใจ
“ครับเดฟ”
เสียงลูกน้องคู่ใจรับคำหนักแน่นพร้อมร่างสูงของเดฟ กลับขึ้นบนตึกปล่อยทิ้งให้ดิเอโกกับบอดี้การ์ดหนุ่มได้แต่มองตามอย่างขุ่นเคืองใจ
“กลับ!
เควิน!” ดิเอโกออกคำสั่งเข้มก่อนหันหลังกลับออกไปด้วยใจที่ร้อนรุ่ม
ยามนี้เจ้าพ่อใหญ่แทบอยากสั่งถล่มให้ราบคราบแล้วบุกเข้าช่วงชิงตัวสุพิชญากลับคืนมา
แต่ทว่าหากทำเช่นนั้นเท่ากับเป็นการหยิบยื่นอันตรายให้สุพิชญามากขึ้นเท่าทวีคูณ
เขารู้ดีสุนัขจิ้งจอกอย่างเดฟไม่มีวันปล่อยให้เขาชิงตัวเธอกลับคืนมาง่ายๆ แน่นอน
“กรี๊ดดด...
ดิเอโก! อย่าเข้ามา ได้โปรด... ออกไป”
เสียงกรีดร้องอย่างโหยหวนพร้อมเสียงตะโกนก้องร้องห้ามเขาดังไปทั่วบริเวณ
ดิเอโกแทบถลาเข้าหาเจ้าของเสียงนั้น
แต่ทว่ากลับมีกรงเหล็กขวางกั้นทำให้เขาไม่อาจเข้าไปหาคนที่กำลังร้องไห้คร่ำครวญได้
“ดาราเดล!
รอหน่อยนะฉันจะช่วยเธอเอง” ดิเอโกตะโกนก้องบอกคนที่กำลังร้องไห้อย่างเสียขวัญ
รอบกายถูกพันธนาการด้วยสายไฟระโยงระยางไปหมด
นั่นไม่ร้ายเท่ามีระเบิดเวลาผูกติดแน่นอยู่กับตัวเธอจนเขาร้อนรนแทบทนไม่ได้
ดิเอโกทำทุกวิถีทางที่จะเข้าช่วยหญิงสาว
ทั้งทุบทั้งงัดกรงเหล็กที่ขวางกั้นจนมือแตกเลือดไหลอาบมือเต็มไปหมด แต่ทว่า...
บึ้ม!
ตูม!!
“ดาราเดล!
ม่ายยยยย!! ” ดิเอโกตะโกนก้องร้องเรียกหญิงสาวที่รักด้วยหัวใจที่แตกสลายเมื่อได้เห็นเปลวไฟลุกทั่วร่างท่ามกลางเสียงระเบิดที่ดังสนั่นหวั่นไหว
น้ำตาของลูกผู้ชายไหลรินยามโขกศีรษะกับกรงเหล็กอย่างบ้าคลั่ง
ท้ายสุดก่อนที่ทุกอย่างจะหยุดสิ้น เขาก็รู้สึกราวศีรษะถูกกระแทกอย่างแรง
“ดาราเดล!
” ดิเอโกตะโกนก้องก่อนสะดุ้งสุดตัวเมื่อรู้สึกคล้ายหล่นวูบลงไปในหุบเหวลึก
เจ้าพ่อใหญ่ลืมตาโพลงทันทีอย่างตกใจ
เรือนกายแกร่งผุดลุกขึ้นนั่งทันควันเมื่อพบว่าเหตุการณ์ทุกอย่างเป็นเพียงฝันไป
“ฝันอีกแล้วหรือนี่”
ดิเอโกพึมพำกับตัวเองยามนั่งพิงกายกับหัวเตียงพร้อมหายใจหอบราววิ่งมาไกลหลายร้อยกิโลเมตร
เจ้าพ่อหนุ่มยกมือขึ้นเสยผมที่ปรกหน้าผาก
ฝันร้ายที่เคยเฝ้าวนเวียนหลอนหลอกเขาทุกคืนค่ำเมื่อหลายปีก่อนยามนี้กลับมาเยือนอีกครั้ง
“ดาราเดล
ผม...ขอโทษ” ดิเอโกรำพันกับตัวเองอย่างรวดร้าวใจ สิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับดาราเดลราวเข็มที่ฝังแน่นอยู่ในหัวใจจนกลายเป็นกลัดหนอง
เจ้าพ่อใหญ่เคลื่อนกายลงจากเตียงก่อนหยัดยืนด้วยขาอันสั่นเทา
ยังไม่ทันยืนได้มั่นคงดี
สองเท้าก็ก้าวเดินพาร่างกายที่อ่อนแรงไปยังเค้าท์เตอร์เปิดฝาขวดน้ำสีเหลืองอำพันก่อนยกกระดกขึ้นกรอกเข้าปากอย่างรวดเร็วจนแทบสำลัก
ดิเอโกหย่อนกายลงนั่งทอดสายตาเหม่อมองเพดานราวต้องการปลดปล่อยจิตใจให้ล่องลอยไปในห้วงความคิด
ภาพเรือนร่างของดาราเดลถูกไฟครอกหลังเสียงระเบิดดังกึกก้องยังติดตาเขามาจนถึงทุกวันนี้
ผู้หญิงคนเดียวที่เขารักต้องมารับชะตากรรมอันโหดร้ายที่ตัวเองไม่ได้ก่อเพียงเพราะมีพี่ชายแสนชั่วช้าอย่างเดฟ
อัลเดอร์ลัส และมีคนรักที่ไม่เอาไหนอย่างเขา
ยามนี้สุพิชญากำลังตกที่นั่งลำบากเพียงเพราะความงี่เง่าของเขาเอง
หญิงสาวผู้บริสุทธิ์ต้องเจอกับชะตากรรมอันโหดร้ายในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ก่อ
เขาจะทำใจได้หรือ แม้ไม่ได้รัก แต่ความรู้สึกสำนึกผิดชอบชั่วดีทำให้เขาไม่อาจทำใจวางเฉยได้
แต่สิ่งที่ต้องแลกกับหนึ่งชีวิตที่บริสุทธิ์ทำให้เขาต้องครุ่นคิดอย่างหนัก
เพราะเท่ากับส่งมอบชีวิตบริสุทธิ์อีกหลายร้อยชีวิตให้ตกอยู่ในมือมาร
ดิเอโกพยุงกายลุกขึ้นก่อนปลดเปลื้องเสื้อคลุมตัวโคร่งออกโยนทิ้งไปอย่างไม่สนใจแล้วเดินตรงดิ่งเข้าห้องน้ำเพื่อหวังใช้สายน้ำที่ชุ่มฉ่ำรินรดกายให้สดชื่น
ยามนี้เจ้าพ่อใหญ่ราวกล้ำกลืนฝืนทนราวอมยาที่แสนขมไว้จะกลืนก็ไม่ได้จะคลายก็ยิ่งยากกว่าหลายเท่า
…ผมควรทำยังไงดีดาราเดล
หลังจากปล่อยให้สายน้ำไหลผ่านเพื่อชำระความเหนื่อยล้าออกไปจนพอใจ
ดิเอโกก็คว้าผ้าเช็ดตัวมาพันกายก่อนหยิบเสื้อคลุมตัวหนามาสวมอย่างลวกๆ
แล้วเดินออกจากห้องน้ำไปราวกับมีเรื่องเร่งด่วนที่ต้องจัดการเสียตอนนั้น
“เฮเลนบอกเควินมาพบฉันที่ห้องด่วน!”
เจ้าพ่อใหญ่กรอกเสียงเข้าไปในอินเตอร์คอม
“ค่ะดิเอโก”
เสียงหวานนอบน้อมตอบรับทันควันราวเป็นเครื่องตอบรับอัตโนมัติ
เจ้าพ่อใหญ่เดินออกไปยังโถงด้านหน้าของตัวห้องพัก
พร้อมหย่อนกายลงกึ่งนั่งกึ่งนอนบนโซฟาตัวใหญ่
ใบหน้าคมสันยามนี้เคร่งเครียดเมื่อครุ่นคิดถึงสิ่งที่ต้องตัดสินใจ เพียงไม่นานบอดี้การ์ดหนุ่มก็เข้ามาพบตามคำสั่ง
“มาแล้วรึเควิน”
เจ้าพ่อใหญ่ทักทายด้วยไม่รู้จะเอ่ยอะไรมากไปกว่านั้นด้วยยามนี้มันหนักอึ้งไปหมดกับสิ่งที่จะเอื้อนเอ่ย
“ครับดิเอโก”
บอดี้การ์ดหนุ่มรับคำสั้นๆ แต่ไม่วายชำเลืองตามอง
ผู้เป็นนายที่ยามนี้ใบหน้าดูคร่ำเคร่งเสียจนน่าเห็นใจ
“โทรตามมิสเตอร์ฟานมาพบฉันบ่ายนี้
แล้วให้เตรียมเอกสารการโอนกรรมสิทธิ์ของเดอะไนท์และเกาะบาหลันมาให้พร้อม”
เจ้าพ่อใหญ่สั่งการทันทีไม่เอื้อนเอ่ยคำใดให้มากความ
แต่ทว่าคำสั่งนั้นสร้างความหวาดหวั่นตกตะลึงให้กับเควินยิ่งนัก
“แต่ว่าดิเอโก
เกาะบาหลัน... ”
“ฉันยืนยันสั่งตามนั้น”
ดิเอโกตวาดเสียงดุเข้มเมื่อบอดี้การ์ดหนุ่มขยับทักท้วง
ดวงตาคมกล้ามองไปด้านหน้าเขม็งอย่างเคร่งเครียด
เขาไม่ต้องการให้ใครมาเอ่ยถึงสิ่งที่เสียดแทงใจอยู่ยามนี้
“ดิเอโกครับหากเกาะบาหลันตกไปอยู่ในมือเดฟ
เท่ากับอีกหลายร้อยชีวิตเชียวนะครับที่ต้องเดือดร้อน” เควินแย้งอย่างไม่เห็นด้วย
เพราะรู้จุดประสงค์ของเดฟดีว่าต้องการเกาะบาหลันไปเพื่อการใด
“แล้วนายจะปล่อยให้พิชชาต้องรับชะตากรรมที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนก่อรึไง”
เจ้าพ่อใหญ่ตวาดถามด้วยเสียงดุกร้าวยามตวัดสายตากลับมาจับจ้องบอดี้การ์ดหนุ่มที่ยืนก้มหน้าอย่างสำนึกผิด
“ทำไมเราไม่บุกเข้าชิงตัวกลับมาล่ะครับดิเอโก
ในเมื่อกำลังของเราก็พร้อม”
เควินเสนอทางที่น่าเป็นไปได้อย่างน้อยยอมเสี่ยงช่วยสุพิชญายังดีกว่าประเคนชีวิตบริสุทธิ์อีกหลายร้อยชีวิตไปให้
เดฟ อัลเดอร์ลัส
“แล้วนายจะมั่นใจได้ยังไงว่าพิชชาจะปลอดภัย
นายคิดว่าเดฟจะปล่อยให้เราบุกชิงตัวได้ง่ายๆ รึไง แค่เราขยับตัวพิชชาก็จะถูกย่ำยีจนไม่เหลือซาก
หรือนายอยากให้เป็นอย่างนั้นเควิน” ดิเอโกย้อนถามในสิ่งที่เควินไม่อาจคาดเดาได้ บอดี้การ์ดหนุ่มถึงกับสะอึกอึ้งทันทีที่ได้ยิน
“ทำตามที่ฉันสั่ง
บางทีอาจถึงเวลาเสียทีที่ฉันต้องวางมือ”
ดิเอโกตัดบทจบก่อนพึมพำคล้ายจะรำพันกับตัวเอง แต่ทว่าวาจาท้ายประโยคนั้นกลับราวน้ำร้อนสาดซัดเข้าเต็มหน้าบอดี้การ์ดคนเก่ง
“ดิเอโก”
เควินอุทานขานนามเจ้านายหนุ่มด้วยหัวใจที่รุ่มร้อน
เขารู้ดียามนี้ดิเอโกหนักใจเพียงใดในสิ่งที่ต้องตัดสินใจ
ความผิดครั้งนี้จะโทษใครได้ถ้าไม่ใช่เพราะเขาพามาผิดตัว
“บอกคนของเราให้เตรียมพร้อม
พรุ่งนี้หากเดฟคิดตุกติกแม้แต่นิดจัดการได้ทันที”
ดิเอโกสั่งการอีกครั้งก่อนลุกขึ้นเดินกลับเข้าด้านในของตัวห้อง
“ครับดิเอโก”
เควินขานรับคำสั่งก่อนมองตามแผ่นหลังของผู้เป็นนายไปด้วยหัวใจที่หนักอึ้งไม่แพ้กัน
เกาะบาหลัน เกาะนี้มีความหมายกับเจ้านายเพียงใดทำไมเขาจะไม่รู้
ที่สำคัญหากโอนกรรมสิทธิ์เกาะนั่นให้ เดฟ อัลเดอร์ลัส
เท่ากับว่าได้หยิบยื่นหายนะให้ชีวิตบริสุทธิ์อีกนับร้อยนับพันอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
“เยี่ยมมากครับคุณดิเอโก
คุณนี่ช่างสุดยอดจริงๆ ยอมทิ้งสมบัติ ทิ้งบริวาร
เพื่อแลกกับผู้หญิงคนเดียว นับถือๆ โว้ว... ฮ่าๆๆ”
เดฟ อัลเดอร์ลัสหัวเราะร่าอย่างสะใจเมื่อดิเอโกติดต่อมาว่ายินดีทำตามข้อเสนอที่เขาต้องการ
และตอนนี้คู่อริก็มายืนอยู่ตรงหน้าพร้อมทนายความส่วนตัว
“ว่าไงเควิน
เปลี่ยนใจมาอยู่กับฉันก็ยังทันนะ
มีเจ้านายไม่ได้เรื่องแบบนี้แกยังจะภักดีอีกเหรอวะ ฮ่าๆๆ” หันมาถามบอดี้การ์ดคนเก่งของ ดิเอโกอย่างหยามหยัน
ดิเอโกแทบสะกดกลั้นความขุ่นเคืองใจไว้ไม่ไหวรีบรวบรัดตัดความก่อนที่จะหมดความอดทน
“หุบปาก! แล้วเลิกเห่าได้แล้วเดฟ รีบๆ จัดการ
ฉันไม่อยากเสียเวลา”
“ฮ่าๆๆ เควิน แกลองฟังนะ เจ้านายแกเขาอยากรีบพาน้องหนูไปขึ้นสวรรค์
ไม่สนใจสักนิดว่าพวกแกกับลูกน้องจะเป็นยังไง โว้ว! สะใจจริงโว้ย!”
เดฟยังคงหัวเราะร่าอย่างบ้าคลั่งก่อนหันไปสั่งลูกน้องคนสนิทให้พาสุพิชญาออกมาแลกเปลี่ยน
“ซาอิคเอาตัวผู้หญิงคนนั้นมา”
“ครับเดฟ” รับคำหนักแน่นนอบน้อมก่อนเดินหายเข้าไปในห้องหนึ่ง แล้วออกมาพร้อมหญิงสาวที่ยามนี้อยู่ในชุดราตรีสีแดงสดชุดเดิมที่สวมใส่มาเมื่อสามวันก่อน
“พิชชา!” ดิเอโกพึมพำขานนามนั้นเมื่อเห็นหญิงสาวยังอยู่ในสภาพพร้อมสมบูรณ์ไม่มีริ้วรอยการถูกทำร้าย
แต่ทว่าดวงตาวาวโรจน์ที่จับจ้องมองมาที่เขานั้นมันช่างชวนให้รู้สึกผิดต่อเธอยิ่งนักที่เป็นเหตุให้ต้องมาเผชิญชะตากรรมเช่นนี้
“ส่งตัวเธอมา” ดิเอโกหันไม่ออกคำสั่งเสียงเข้มกับเดฟ
แต่อีกฝ่ายกลับเลิกคิ้วทำหน้าเย้ยหยันยามยอกย้อนคำ
“ง่ายไปหน่อยไหมดิเอโก
ไหนล่ะหลักฐานการโอนกรรมสิทธิ์”
“มิสเตอร์ฟาน”
ดิเอโกเอ่ยเรียกทนายความประจำตัวขณะสายตายังจับจ้องเดฟไม่วางตา
เจ้าพ่อใหญ่ไม่วายตวัดสายตาไปมองสุพิชญาที่ยืนเชิดหน้าไม่มองมาที่เขาแม้แต่นิด
“ครับดิเอโก
นี่ครับเดฟ เอกสารการโอนสิทธิ์ทุกอย่างที่เดอะไนท์คาสิโน กับเกาะบาหลัน”
มิสเตอร์ฟานก้าวขึ้นมายืนข้างๆ พร้อมทั้งหยิบเอกสารออกมาจากกระเป๋า
“คุณชอน
ตรวจสอบเอกสารทุกใบ”
เดฟสั่งทนายประจำตัวให้เข้าไปตรวจเอกสารทันทีแต่ทว่าชอนยังไม่ทันได้ขยับเท้าเสียงดุกร้าวของดิเอโกก็ดังขึ้นเสียก่อน
“เดี๋ยว!
ฉันจะไม่ให้นายแตะต้องเอกสารใดๆ ถ้านายไม่ปล่อยเธอมาก่อน”
เอ่ยเสียงเข้มพร้อมจ้องมองเดฟอย่างไม่นึกเกรงกลัว เมื่อเห็นเดฟมีท่าทีฮึดฮัด
เจ้าพ่อหนุ่มก็รีบกระตุ้นจุดอ่อนของอีกฝ่ายทันที
“รึนายกลัวล่ะเดฟ
ที่นี่มันรังของนาย ไม่เห็นจะมีอะไรน่ากลัวไม่ใช่รึไง”
วาจานั้นได้ผลชะงัดเพราะยามนี้เดฟนัยน์ตาลุกวาวเมื่อถูกอีกฝ่ายหยามหยัน
“ซาอิคส่งตัวผู้หญิงให้มัน”
ออกคำสั่งเสียงกร้าวอย่างเคืองโกรธ ใบหน้าที่หล่อเหลาบิดเบี้ยวเหยเกยามจับจ้องคู่อริไม่วางตา
“ครับเดฟ”
ลูกน้องผู้ภักดีรับคำก่อนพาสุพิชญาไปส่งให้อีกฝ่าย เควินรีบมารับตัวไปอย่างรู้หน้าที่
ขณะที่ชอนเดินเข้ามาฉกเอกสารในมือมิสเตอร์ฟานไปตรวจดูอย่างถี่ถ้วนแทบทุกตัวอักษร
“เอกสารเรียบร้อยครับเดฟ
ทุกอย่างระบุไว้ชัดเจนครับ” ชอนรายงานเจ้านายหนุ่มเมื่อทำหน้าที่เรียบร้อย
เดฟพยักหน้าอย่างพึงพอใจก่อนหัวเราะร่าอีกครั้ง
“ฮ่าๆๆ
สะใจ สมน้ำหน้าไอ้ดิเอโกจริงๆ”
“พวกเรากลับ”
ดิเอโกแม้จะแค้นเคืองที่ถูกอีกฝ่ายหยามหยันแต่ต้องอดกลั้นไว้เพราะเขาต้องพาทุกคนออกไปจากที่นี่อย่างปลอดภัยไม่เช่นนั้นแล้วสิ่งที่ทำลงไปจะไม่เกิดประโยชน์อันใดเลยสักนิด
“เดี๋ยวครับดิเอโก”
ชอนท้วงขึ้นเมื่อดิเอโกกับพรรคพวกตั้งท่าจะถอยกลับ
ดิเอโกชักสีหน้าไม่พึงพอใจก่อนหันไปถามทนายความประจำตัวของเดฟ
“มีอะไรอีกล่ะคุณชอน”
น้ำเสียงติดจะรำคาญนิดๆ แล้วก็ต้องยิ่งหงุดหงิดใจมากขึ้นเมื่อได้ยินวาจาของชอน
“หากไม่รบกวนเกินไป
รบกวนดิเอโกกับมิสเตอร์ฟานประทับรอยนิ้วมือที่เอกสารอีกรอบ
อย่างน้อยผมรอบครอบไว้ก่อนพวกคุณคงไม่มีปัญหานะครับ” ชอนกระตุกยิ้ม อาชีพทนายความทำให้เขาไม่วางใจอะไรง่ายๆ
การที่ ดิเอโกเซ็นโอนกรรมสิทธ์ให้อย่างง่ายดาย มันน่าสงสัยเอาการ
“ได้!
ไม่มีปัญหา”
ดิเอโกตอบรับเสียงกร้าวไม่พอใจหลังจากส่งสายตาเป็นเชิงปรึกษามิสเตอร์ฟาน
“เรียบร้อยแล้ว
ผมกลับได้แล้วใช่ไหมครับคุณชอน”
ดิเอโกถามหลังจากที่ประทับรอยนิ้วมือลงบนเอกสารทุกฉบับเรียบร้อย
“เชิญครับ”
ชอนค้อมศีรษะนิดๆ ก่อนตอบรับคำพร้อมเหยียดยิ้มหยันให้พลางผายมือเชื้อเชิญราวนบนอบ
แต่กิริยานั้นช่างขวางหูขวางตานักในความรู้สึกของดิเอโก
เมื่อคล้อยหลังดิเอโกกับพรรคพวก
ชอนยื่นเอกสารทั้งหมดให้เดฟที่กำลังหัวเราะร่าอย่างสะใจที่ได้สมบัติของดิเอโกมาครอบครองแม้จะไม่ใช่ทั้งหมดแต่นับว่าเป็นบ่อน้ำบ่อใหญ่ที่หล่อเลี้ยงลูกน้องของดิเอโกทุกชีวิตเลยทีเดียว
เขาอยากรู้นักว่าในเมื่อทุกอย่างตกเป็นของเขา
คนของดิเอโกจะยังสวามิภักดิ์ต่อเจ้านายหน้าโง่ที่ยอมทิ้งทุกอย่างแลกกับผู้หญิงคนเดียวหรือไม่
“ฮ่าๆๆ สบจะได้ก็ได้มาง่ายแสนง่าย
ไม่คิดว่ามันจะง่ายขนาดนี้” เดฟมองดูเอกสารในมืออย่างกระหยิ่มใจ
แต่ทว่าชอนกลับเอ่ยวาจาชวนอารมณ์ขุ่นมัวเสียกระนั้น
“นั่นน่ะสิครับผมเองยังไม่คิดว่ามันจะง่ายขนาดนี้”
“ไหนคุณตรวจสอบเอกสารทุกอย่างแล้วไง
จะมาสงสัยอะไรคุณชอน” เดฟหรี่ตามองชอน
สีหน้าเริ่มเคร่งเครียดเมื่อเริ่มคิดตามที่ทนายประจำตัวเอ่ย
แต่คำของตอนประโยคต่อมาก็ทำให้เจ้าพ่อวายร้ายคลายความตึงเครียดไปได้
“ครับผมตรวจสอบหมดแล้วทุกอย่าง
เรื่องลายเซ็นนั่นไม่เป็นปัญหาแน่นอนครับ หากดิเอโกคิดไม่ซื่อ
เราก็มีรอยนิ้วมือแล้ว ยังไงก็ตุกติกไม่ได้แน่นอนครับ”
“ดี!
งั้นพรุ่งนี้ เอาเอกสารไปจัดการโอนทุกอย่างมาเป็นของฉันโดยเร็วที่สุด
ฮ่าๆๆ” อีกครั้งที่หัวเราะลั่นอย่างถูกใจ
“ครับเดฟ”
ชอนรับคำก่อนยื่นมือไปรับเอกสารแล้วถอยห่างออกไปเพื่อเตรียมพร้อมจัดการทุกอย่างตามคำสั่งในวันรุ่งขึ้น
ยามนี้เดฟ
อัลเดอร์ลัสมองนิ่งตรงไปข้างหน้าด้วยสายตากร้าวกระด้างเมื่อคิดถึงแผนการเด็ดหัวเด็ดหางคู่อริอย่างดิเอโกขั้นต่อไปที่จะมาถึงในไม่ช้านี้
เมื่อออกจากรังของเดฟมาได้ระยะหนึ่งซึ่งเจ้าพ่อหนุ่มคะเนดูแล้วว่าปลอดภัยไม่มีคนของคู่อริติดตามมาแน่นอน
จึงสั่งให้คนขับรถชะลอรถแล้วส่งสัญญาณให้เควินที่ขับรถตามมาติดๆ
จอดเทียบข้างทางก่อนลงจากรถไปเพื่อสั่งความกับบอดี้การ์ดหนุ่ม
สุพิชญาที่นั่งเงียบมาตลอดทางรีบตามลงไปเพื่อหาทางเจรจาด้วยเธอไม่อยากกลับไปอยู่ในการควบคุมของดิเอโกอีก
แม้ลึกๆ ในใจจะดีใจที่เขาติดตามมาพาเธอออกไปให้รอดพ้นเงื้อมมือคนโฉดอย่างเดฟ
อัลเดอร์ลัส แต่นั่นแหละทุกอย่างมันเป็นความผิดเขาสุพิชญาคิดเช่นนั้น!
“เควินนายพามิสเตอร์ฟานไปที่เกาะบาหลัน
ฉันจะไปที่เดอะไนท์” ดิเอโกสั่งความ แต่บอดี้การ์ดหนุ่มกลับนิ่วหน้าด้วยความสงสัยและเอ่ยถามออกไปอย่างรวดเร็ว
“แต่ดิเอโกครับ
เกาะบาหลันกับเดอะไนท์”
“ทำตามที่ฉันสั่ง
คุ้มกันมิสเตอร์ฟาน อย่าให้ใครเข้าเกาะบาหลันได้” เจ้าพ่อใหญ่เอ่ยสั่งด้วยเสียงเฉียบขาดไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้ไถ่ถามให้ยืดยาวด้วยเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะนั่งอธิบายเรื่องราวใดๆ
“ไปเถอะเควินแล้วนายจะเข้าใจเอง”
บอกเสียงอ่อนลงเมื่อเห็นสีหน้าไม่สบายใจและไม่เข้าใจของบอดี้การ์ดคนสนิท
เควินที่ไม่อาจขัดคำสั่งเจ้านายใหญ่ได้จำก้มหน้ารับคำบัญชาอย่างเสียมิได้
“ครับดิเอโก”
“ส่วนคุณไปกับผมยาหยี”
ดิเอโกหันมาคว้าต้นแขนสุพิชญาที่ยืนนิ่งเงียบอยู่ข้างๆ
อย่างรอคอยจังหวะที่จะเอ่ยแทรกในสิ่งที่ต้องการ
“นี่ปล่อยนะ!
คุณจะพาฉันไปไหน ฉันอยากกลับบ้าน” สุพิชญา หวีดร้องโวยวายเสียงดังลั่นเมื่อดิเอโกไม่มีทีท่ายอมปล่อยมือง่ายๆ
ซ้ำยังออกแรงบีบจนต้นแขนเธอร้าวระบมไปหมด
“คุณได้กลับแน่ยาหยีแต่ไม่ใช่ตอนนี้”
น้ำเสียงนั้นเข้มดุหวังกำราบให้อีกฝ่ายหยุดพยศ
แต่ทว่าเหมือนยิ่งยุให้สุพิชญายิ่งต่อต้านมากขึ้น
“ฉันไม่ไปกับคุณ”
คนอยากหลีกหนีจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันตอบกลับอย่างมั่นใจพร้อมเชิดหน้าท้าทายหมายถ่วงเวลาให้ถึงที่สุด
หญิงสาวภาวนาในใจขอให้ใครสักคนผ่านมาทางนี้ช่วยพาเธอออกไปจากคนใจร้ายนี่เสียที เธอหลุดรอดจากเจ้าพ่อวายร้ายอย่างเดฟมาได้
แต่ต้องกลับมาเผชิญหน้ากับคนบ้าอำนาจอย่างดิเอโกมันก็ไม่ต่างอะไรกับหนีปีศาจร้ายเจอซาตานบ้ากาม
“นี่อย่าเรื่องมากได้ไหม
จะไปดีๆ หรือจะให้อุ้ม” น้ำเสียงบ่งบอกว่าเริ่มรำคาญและใกล้หมดความอดทน
แต่สุพิชญาหาได้ใส่ใจไม่ หญิงสาวยังคงเชิดหน้าท้าทายตั้งท่าต่อต้านอย่างถือดี
“ไม่ว่าจะอุ้ม
หรือจะยังไงก็ไม่ไป ปล่อยฉัน!! ฉันจะกลับบ้าน” ว่าพลางสะบัดแขนโดยแรงหวังให้หลุดออกจากการเกาะกุม
แต่ปลายนิ้วแกร่งกลับรึงรัดแน่นเข้า
นั่นไม่ร้ายเท่าวาจาร้ายเหลือที่พรั่งพรูออกมาราวปลายดาบตวัดเชือดเฉือนเธอ
“ผมเสียไปตั้งมากมายจะปล่อยคุณกลับไปง่ายๆ
ได้ไง” ถ้อยคำนั้นยิ่งสร้างความขุ่นเคืองใจให้พยาบาลสาวจนหาที่เปรียบไม่ได้
เขาใช้วาจาดูหมิ่นราวเธอเป็นข้าวของที่แลกง่ายๆ ด้วยเงิน
“เรื่องของคุณ!
ฉันไม่ได้ขอร้องให้คุณไปพาฉันกลับมานี่” คนอวดดีเบะปากพร้อมส่งสายตาเหยียดหยันจับจ้องมองตอบเจ้าพ่อใหญ่ที่ยามนี้ดวงตาสีสนิมวาวโรจน์ด้วยเพลิงโทสะเริ่มปะทุรุนแรงขึ้นทุกวินาที
เห็นทีเขาต้องจัดการสั่งสอนผู้หญิงคนนี้ให้รู้สำนึกเสียทีว่าเธอไม่มีสิทธิ์มาแสดงความโอหังกับเขาเยี่ยงนี้
โดยเฉพาะต่อหน้าลูกน้องของเขา!
“อ้อ!
พูดแบบนี้แสดงว่าอยากกลับไปอยู่กับอันธพาลอย่างเดฟใช่ไหม”
ถลึงตาใส่อย่างโกรธเกรี้ยวชนิดที่สุพิชญาถึงกับเสียวหลังวาบด้วยความหวาดหวั่นแต่ก็ยังดึงดันทำอวดดีโต้ตอบไม่ยอมลงให้ง่ายๆ
“ใช่!
เขาแสนจะเร้าใจ คุณมันหน้าโง่เองช่วยไม่ได้
สมน้ำหน้าเสียทั้งสมบัติทั้งลูกน้อง” สุพิชญาเหยียดหยามเย้ยหยันทั้งสีหน้าแววตาอย่างไม่ยำเกรงเสียจนเจ้าพ่อใหญ่อยากจัดการปราบพยศเสียเดี๋ยวนั้น
“ปากดีนักนะพิชชา!
ดี! งั้นคืนนี้ผมขอพิสูจน์หน่อยสิว่าไปอยู่กับไอ้เดฟมันมาเสียหลายวัน
มันสอนอะไรคุณมาบ้าง”
“กรี๊ดดด!!
นี่คุณจะทำอะไรปล่อยฉันนะ!!” ความตกใจทำให้หวีดร้องเสียงหลงเมื่อดิเอโกกระชากร่างโปร่งบางของเธอเข้าหาแล้วรวบกอดไว้ด้วยแขนแกร่งเพียงข้างเดียว
เท่านั้นยังไม่พอใบหน้าคมดุยังโน้มต่ำเข้าใกล้เสียจนหัวใจเธอเต้นรัวเร็วและแรงด้วยเกิดอาการหวามไหวโดยไม่รู้ตัว
หญิงสาวชะงักอึ้งไปชั่วขณะรีบก้มหน้าหลับตาแน่นด้วยกลัวว่าเขาจะบ้าระห่ำทำอะไรโจ๋งครึ่มต่อหน้าลูกน้องที่ยามนี้บ้างก็เสไปมองทางอื่น
บ้างก็ชำเลืองมองมาเป็นระยะๆ
ดิเอโกใช้โอกาสนั้นดึงรั้งลากร่างน้อยแล้วจับยัดใส่เข้าไปในรถ
แต่ทว่าสุพิชญากลับหวีดร้องพร้อมพยายามดิ้นรนขัดขืนไม่ยอมเข้าไปโดยง่าย
“หยุดดิ้น!
แล้วก็เลิกร้องโวยวายถ้าไม่อยากแสดงลีลาเร่าร้อนในรถนี่”
ตวาดเสียงเข้มดุดันพร้อมหลุดวาจาแสนร้ายกาจทำเอาคนฟังอย่างสุพิชญาเลือดขึ้นหน้าฟาดฝ่ามือเข้าตรงโหนกแก้มสูงสุดแรง
จนใบหน้าหล่อดุนั้นสะบัดไปตามแรงตกกระทบ
เพียะ!!
“บัดซบ!
นี่คุณตบผมอีกแล้วนะยาหยี”
ดิเอโกหันขวับมากัดฟันกรอดเค้นเสียงเข้มลอดไรฟันอย่างอดกลั้นที่จะไม่บันดาลโทสะตอบโต้กลับไป
“ถ้าฉันฆ่าคุณได้ฉันก็จะทำ”
สุพิชญายังคงเค้นเสียงตอบโต้ราวต้องการตอกย้ำให้อีกฝ่ายตระหนักว่าคนอย่างเธอไม่มีวันที่จะมาหยามกันได้ง่ายๆ
อย่างน้อยเธอก็ขอต่อสู้จนวินาทีสุดท้ายต่อให้ต้องตายก็ยังดีกว่าถูกข่มเหงดูหมิ่น
“ดี!
งั้นผมจะคอยดูว่าคืนนี้คุณจะฆ่าผมหรือร้องครวญครางให้ผมสนองตัณหาให้คุณ”
“กรี๊ดดด!!
ไอ้คนบ้า! ไอ้คนเลว! อุ๊บ!
อื้อ!” เสียงหวานกรีดร้องพร้อมสบถด่าลั่นรถก่อนที่จะกลับกลายเป็นเพียงเสียงอู้อี้ในลำคอเมื่อถูกผูกมัดแน่นไปทั้งมือ
ปาก และเท้า
“เจคออกรถ!” เจ้าพ่อใหญ่หันไปออกคำสั่งเสียงเข้มกับลูกน้องเมื่อพาตัวเองเข้ามานั่งในรถเรียบร้อยโดยไม่สนใจอาการดิ้นขลุกขลักของสุพิชญาสักนิด
“ครับดิเอโก!”
“นั่งดีๆ
ไม่ชอบ ชอบให้ผูกมัด รู้สึกว่าคุณจะชื่นชอบความรุนแรงจริงๆ นะยาหยี
เดี๋ยวคืนนี้ผมจะสนองคุณให้ถึงใจเชียวล่ะ โทษฐานที่กล้าตบหน้าคนอย่างดิเอโก!”
ดวงตาคู่สีสนิมวาววับอย่างสะใจเมื่อสยบอีกฝ่ายลงได้แม้จะเป็นการใช้กำลังแล้วพันธนาการไว้อย่างแน่นหนาก็ตามทีและอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้เขาก็จะเปลี่ยนวิธีการปราบพยศคนอวดดีด้วยลีลารักที่แสนเร่าร้อน
และเขามั่นใจว่ามันจะเป็นวิธีเดียวที่จะสยบความเจ้าพยศนี้ได้ชะงัด!
“อื้อ!
อื้อ!” สุพิชญาส่งเสียงอู้อี้อย่างขัดใจดวงตาคู่สวยเต็มไปด้วยแววชิงชังเคียดแค้นในตัวเจ้าพ่อหนุ่ม
เขาจับเธอทุ่มเข้ามาในรถแล้วมัดมือมัดเท้าปิดปากราวกับเธอไม่ใช่คน
อย่าให้เธอมีโอกาสหนีรอดไปได้ สาบานเลยว่าเธอจะเอาเรื่องเขาให้ถึงที่สุด!!
“เลิกใช้สายตามองผมแบบนั้นดีกว่ายาหยี
คุณน่าจะรู้ตัวดีว่าจริงๆ แล้วคุณไม่ได้เกลียดชังผม
กลับกันคุณอาจคลั่งผมเสียจนถอนตัวไม่ขึ้นโดยที่คุณยังไม่รู้ตัวก็ได้”
ดิเอโกชะโงกหน้าเข้าไปใกล้พร้อมใช้ปลายนิ้วแกร่งบีบบังคับเชยคางสวยให้เธอสบตาเขา
เจ้าพ่อใหญ่พึงพอใจที่เห็นท่าทีฮึดฮัดขัดใจด้วยไม่อาจทำอะไรเขาได้
คำพูดยั่วเย้านั่นช่างยั่วอารมณ์เธอให้คุกรุ่นจนแทบอยากซัดฝ่ามือเข้าใบหน้าแสนยียวนเสียครั้งสองครั้งให้สาแก่ใจ
เกิดมาเธอไม่เคยพบเจอใครหยาบคายได้เท่าผู้ชายตรงหน้านี้มาก่อนเลยสักนิด ‘ให้ตายเถอะ!
พิชชานี่เธอสร้างเวรกรรมกับอีตาหื่นนี่มาแต่ชาติปางไหนกัน
เธอถึงต้องมาพบเจอกับเรื่องบ้าๆ นี่’