ตอนที่ 8
“ริค! ทำไมแกสะเพร่าแบบนี้วะ ไอ้เวรเอ๊ย! คราวนี้ฉันโดนพี่เคลย์ริกเล่นงานตายแน่
แกนะแก มันน่าไล่ออกจริงๆ เลย ไอ้บ้าเฮ้ย! แกกำลังทำให้ฉันซวย”
โรมันถึงกับตะคอกใส่คนสนิท เมื่อฝ่ายนั้นโทรมาสารภาพว่าส่งภาพให้ผิดคน
เลยพลอยทำให้พี่ชายของผู้เป็นเจ้านายหนุ่มฉุดผิดคนตามไปด้วย
“ผมขอโทษครับเจ้านาย” ริคได้แต่เอ่ยคำขอโทษ
เพราะพูดอะไรไม่ได้แล้วนอกจากเสียจากคำนี้
“แกขอโทษ! แล้วมันทำให้ฉันหายซวยได้ไหมวะ” โรมันยังหัวเสียไม่เลิก
ระหว่างนั้นก็คิดไปด้วยว่าจะแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไรดี
แล้วนี่มันก็ผ่านมาเป็นสัปดาห์แล้วด้วย
พี่ชายของเขาคงจะทารุณกรรมเชลยสาวแสนสวยคนนั้นไปแล้ว
“มือมันไปโดนผิดภาพนะครับเจ้านาย
ผมไม่ได้ตั้งใจส่งให้ผิด”
แล้วไอ้เขาก็เพิ่งจะมีเวลามานั่งไล่ดูการประวัติย้อนหลังเมื่อครู่นี่เอง
เลยทำให้รู้ว่ากดส่งภาพผิดคน
“เอ่อๆ
แกไม่ต้องพูดแล้ว” โรมันตัดสายทิ้งทันที ก่อนจะโยนโทรศัพท์ลงบนเตียง
จากนั้นก็ยกสองขึ้นกุมขมับ เดินวนไปวนมารอบห้องพักด้วยสีหน้าเครียดจัด
‘แล้วจะทำไงดีว่ะ
หนีไปเที่ยวสักพัก แล้วค่อยกลับมาเจอหน้าพี่เคลย์ริกดีไหมวะ’ ชายหนุ่มพึมพำซ้ำๆ
อยู่อย่างนั้น ก่อนจะตัดสินใจว่าช่วงหนีควรหลบหน้าพี่ชายไปสักพักคงดีที่สุด
เพราะเขาไม่อยากโดนพี่ชายกระทืบ
พอได้ข้อสรุปแล้วก็เดินไปหยิบโทรศัพท์ที่ถูกโยนไปนอนแอ้งแม้งอยู่บนเตียงมากดโทรหาเพื่อนรัก
“ว่าไง ไอ้ตัวแสบ”
หนุ่มนักรักทักทายอย่างอารมณ์ดี
“บรินเนอร์
แกอยู่ไหน” โรมันถามเสียงร้อนรน เพราะกลัวว่าเพื่อนจะขึ้นเรือไปแล้ว
หลังจากนึกขึ้นได้ว่าสามวันก่อนเพื่อนรักชวนให้ไปงานปาร์ตี้วันเกิด
แต่เขาก็ปฏิเสธไป เพราะโดนสั่งห้ามไม่ให้ออกไปเที่ยวไหน
“ก็อยู่กับสาวๆ ไงไอ้ตัวแสบ
ว่าแต่แกเปลี่ยนใจจะไปกับฉันแล้วใช่ไหม” บรินเนอร์ถามกลับเสียงเจือหัวเราะ
เมื่อสาวข้างกายใช้มือจี้เอว
“เอ่อ! ฉันเปลี่ยนใจแล้ว
ว่าแต่ถ้าฉันไปตอนนี้ยังทันไหมวะ”
“ทัน แกรีบมาล่ะกัน”
บรินเนอร์พูดจบแค่อึดใจเดียว โรมันก็ตกปากรับคำทันทีว่าทัน
จากนั้นก็หันไปคว้ากระเป๋าเงินหย่อนลงกระเป๋าตามด้วยโทรศัพท์แล้วเปิดประตูออกไปอย่างเร่งรีบ
ทว่าขณะระหว่างเดินลงบันไดอย่างรีบร้อนเสียงของบิดาก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
“โรมัน!”
เสียงคุ้นหูนั้นทำให้สองเท้าใหญ่ชะงักได้อยู่หมัด
“ครับแด็ด” เจ้าของเสียงตกใจเล็กน้อย
ก่อนส่งยิ้มไปประจบ
“นั่นแกรีบร้อนจะออกไปไหนแต่เช้า
หรือจะออกไปทำงาน” ไทร์เฟียเอ่ยถามอย่างแปลกใจ
“เปล่าครับแด็ด พอดีผม...ผมจะไปงานวันเกิดเพื่อนครับ แด็ดให้ผมไปนะครับ” โรมันทำเสียงอ้อนๆ
“แกนี่...อ้อนเป็นเด็กไปได้
อายุตั้งเท่าไหร่แล้ว” ไทร์เฟียส่ายหน้าเอ็นดูปนเอือมระอานิดหน่อย
เพราะจะว่าไปตลอดหลายวันที่ผ่านมาลูกชายก็ไปเรียนรู้งานทุกวัน
แล้วสายของเขาก็รายงานมาว่าโรมันตั้งอกตั้งใจศึกษางานดี
แต่จะมันจะเชื่อได้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรือเปล่านั้น ตนก็ไม่แน่ใจ
“แล้วแด็ดจะให้ผมไปหรือเปล่าล่ะครับ”
โรมันทำตาปริบๆ
“แต่เคลย์ริกสั่งห้ามไม่ให้แกไปไหน”
“ก็ถ้าแด็ดอนุญาต
พี่เคลย์ริกก็ไม่ว่าอะไรหรอก ผมสัญญาว่าจะรีบกลับมา” พูดไปก็ยกมือเพ่งนาฬิกาไป
เพราะกลัวจะไปขึ้นเรือของเพื่อนรักไม่ทัน
“พ่อจะให้แกไป
แต่แกต้องรับปากกับพ่อมาก่อนว่าหลังจากไปเที่ยวคราวนี้แล้ว
กลับมาแกต้องรีบเดินทางไปประเทศไทยทันที” ไทร์เฟียหยุดพักหายใจแล้วยิ้มมีเลศนัย
จากนั้นก็พูดต่ออีกไม่กี่คำ ทว่าแค่ไม่กี่คำนั้นก็ทำเอาลูกชายถึงกับร้องเฮ้ยลั่นคฤหาสน์
เรียกให้พ่อบ้านอัลเฟรดและคนอื่นๆ พากันออกมามองดู
“ว่าไง”
คนเป็นพ่อย้ำเสียงเข้มเมื่อลูกชายยืนกรานปฏิเสธ
“สัญญาครับแด็ด”
คนอยากหนีหน้าพี่ชายสักพักจำใจยอมทำสัญญากับบิดา
จากนั้นก็รีบเดินไปขึ้นรถคันหรูแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว พร้อมๆ กับพูดของบิดายังดังก้องอยู่ในหัวเรื่องคู่หมั้น
ที่จู่ๆ บิดาก็มาบอกว่าเขามีคู่หมั้นรออยู่ที่ประเทศไทย
แล้วดันมีแค่เขาเท่านั้นที่มีคู่หมั้น
ทั้งที่เขากับเฟลิกซ์ก็เกิดห่างกันไม่กี่นาที
******
พึ่บ!
แฟ้มเอกสารถูกวางลงอย่างแรงด้วยมือหนา
หลังจากไล่อ่านข้อมูลที่ได้มาซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้งจนจำได้ขึ้นใจ สรุปง่ายๆ
เลยก็คือเขาไปฉุดมาผิดคน
“ลิเบอร์
แกแน่ใจใช่ไหมว่าข้อมูลที่ได้มาทั้งหมดเป็นความจริง”
เคลย์ริกเอ่ยถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
เพราะตอนนี้เขาเองก็ชักคิดไม่ตกแล้วว่าจะจัดการกับแม่ตัวแสบอย่างไรดี
สาเหตุก็เพราะโรมันสืบประวัติมาแบบชุ่ยๆ แล้วไอ้เขาก็พลาดที่ไว้ใจโรมันมากเกินไป
ทั้งที่ก็รู้อยู่เต็มอกว่าน้องชายไม่รอบคอบ
“นักสืบคนนี้เชื่อถือได้ครับเจ้านาย”
สีหน้าลิเบอร์ไม่ได้เครียดหรือกังวลอะไรเลยสักนิด
สาเหตุก็เพราะเขาได้สอบถามจากจีโอ ก่อนที่จะนำประวัติมาให้เจ้านายหนุ่มแล้วว่า
ตลอดเวลาที่เขายุ่งอยู่กับการไปสืบประวัติของมธุรา เจ้านายหนุ่มกับเชลยสาวเป็นอย่างไรกันบ้าง
ซึ่งจีโอก็รายงานว่าคุณเคลย์ริกเข้าไปนอนกับเชลยสาวทุกคืน
แล้วไม่ใช่ว่าเข้าไปประเดี๋ยวประด่าวเท่านั้น แต่คุณเคลย์ริกอยู่ถึงเช้าจึงได้ออกจากห้อง
หากเป็นเช่นนี้ ปัญหาที่เกิดจากความไม่ละเอียดรอบคอบของคุณโรมันก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่
เพราะไหนๆ
ก็เลยเถิดไปถึงขั้นนอนด้วยกันแล้วก็ยกตำแหน่งนายหญิงใหญ่แห่งแม็คแคลตันไปเลยก็จบ
แต่จะติดปัญหาอยู่นิดหน่อยก็ตรงที่เชลยสาวแสนสวยจะยอมหรือเปล่า
“ไอ้โรมันนะไอ้โรมัน
ฉันไม่น่าใช้คนอย่างแกเลย ให้ตายเถอะ!
แล้วคราวนี้ฉันจะทำยังไงว่ะ!”
เคลย์ริกกระแทกลมหายใจออกมาสุดแรง สีหน้ายังเคร่งเครียดไม่เลิก
เพราะเขาต่อว่ามธุราเอาไว้ซะเยอะ แล้วถ้าเดินเข้าไปบอกว่าผมขอโทษนะ
พอดีผมจับมาผิดตัว แล้วอะไรจะเกิดขึ้น แม่ตัวแสบคงจะโวยวายลั่นห้องแน่ๆ
แต่ทำไมเขาจะต้องกลัวด้วยว่าอะไรจะเกิดขึ้น
เพราะถ้าหากเจ้าหล่อนไม่ยอมฟังคำแก้ตัวใดๆ จากเขา ก็จับทำเมียซะก็สิ้นเรื่อง แล้วดูสิว่าหลังจากเป็นเมียของเขาไปแล้ว
เจ้าตัวยังจะกล้ามีปากมีเสียงอะไรอีกหรือไม่
‘เฮ้ย!
นี่แกคิดบ้าอะไรว่ะเนี่ย ใครจะไปบ้าเลือกเอาผู้หญิงปากร้ายแบบนั้นมาเป็นเมียกัน’
‘แต่เจ้าหล่อนก็สวยไม่เบาเลยนะ หากได้เป็นเมียคงจะดีไม่น้อยเลยแหละ
เพราะมีคนเค้าว่ากันว่าผู้หญิงไทยปรนนิบัติสามีเก่ง’
เมื่อใจถูกแบ่งเป็นสองฝ่ายเลยทำให้คนที่เครียดอยู่แล้ว
เครียดหนักกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า ลมหายใจร้อนๆ ถูกพ่นออกมานับครั้งไม่ถ้วน ทั้งที่เขาเองก็เผชิญปัญหามากมาย
ตั้งแต่ก้าวขึ้นมากุมบังเหียนแม็คแคลตันกรุ๊ปแทนบิดา แต่พอมาเจอเรื่องนี้เข้าไป
เขากลับคิดไม่ตกซะงั้น
“เรื่องคุณมธุรา
ผมคิดว่าเจ้านายไม่เห็นต้องเครียดขนาดนี้เลยนะครับ” ลิเบอร์พูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มมุมปาก
“แกพูดแบบนี้หมายความว่าไง ลิเบอร์”
ถามเสียงห้วนๆ พลางจ้องหน้าเลขาหนุ่มเขม็ง
และเดาได้เลยว่าก่อนจะมาที่นี่เลขาหนุ่มต้องแวบไปไหนมาก่อนแน่ๆ
เจ้าหมอนี่ถึงได้ยิ้มมีเลศนัย
“โธ่เจ้านาย อย่ามองผมแบบนั้นสิครับ
แต่ผมมั่นใจว่าสิ่งที่ผมคิดอยู่ตอนนี้ก็ไม่ได้ต่างจากที่เจ้านายกำลังคิดอยู่แน่นอนครับ”
คนรู้ใจนายยิ้มกว้างอดไรฟันเมื่อเจ้านายหนุ่มส่งสายตาพิฆาตมาให้
“แกรู้หรือไงว่าฉันคิดอะไรอยู่”
เคลย์ริกเอ่ยถามคล้ายไม่ใส่ใจ
หากแต่ความจริงแล้วเขากำลังอยากรู้ว่าเลขาหนุ่มคิดเหมือนเขาคิดจริงหรือ
“ทำให้คุณมธุราเป็นนายหญิงใหญ่แห่งแม็คแคลตันครับ”
เลขาหนุ่มตอบกลับด้วยสีหน้าทะเล้น
“ฮึ!”
เคลย์ริกคำรามในลำคอ
ก่อนจะหันไปหยิบแฟ้มประวัติครอบครัวศิริโชคธนามาไล่อ่านอีกครั้งอย่างคนใช้ความคิด
ก่อนจะมาสะดุดอยู่ที่ภาพถ่ายของหญิงสาวกับผู้ชาย
“ลิเบอร์! ไอ้ผู้ชายคนนี้เป็นใคร” มือหนาดึงเอาภาพออกจากแฟ้มแล้วส่งให้เลขาหนุ่ม
ใจก็บังเกิดความรู้สึกหวงแหนผุดขึ้นมาจนเขาเองยังตกใจ