นอกรอบ
“เป็นกุลสตรีที่ร๊ากสนุก...ชอบไปบุกตามผับตามบาร์
ฉันชอบคุยกับคนแปลกหน้า ชอบเฮฮาแต่ไม่บ้าผู้ชาย...”
เสียงเพลงจากวิทยุที่สาลี่ทิ้งเอาไว้และผู้เป็นนายสาวกำลังเอามาเปิดฟังอย่างครึกครื้น
พร้อมกับฮัมตามเพลงตามไปด้วยอย่างอารมณ์ดี หลังจากที่กำจัดสาวใช้ เอ๊ย! ให้รางวัลแม่บ้านกึ่งคนดูแลบ้านไปพักผ่อนต่างจังหวัดตามอัธยาศัย
เพื่อจะได้อยู่ที่บ้านพักตากอากาศอย่างเป็นส่วนตัวเพียงลำพัง
เพียงลำพัง...ที่ไม่ได้หมายถึงแค่หล่อนคนเดียว
“ฮืม...ฮึ่ม...ฮืม...ฮึ่ม...ฮืม...ฮื่ม...ฮื้ม...ฮืม...ฮึ่ม...ฮืม...ฮื่ม...ฮืม...ฮึ้ม...ฮืม...”
ใบหน้าสวยใสดั่งสาวรุ่น
รวบผมยาวสยายเป็นมวยหลวมๆ ไว้กลางศีรษะ มือถือแปรงใยบวบกำลังขัดถูเรียวขายาวขาวเนียนที่ยกชูโผล่พ้นจากฟองสบู่สีขาวที่ลอยฟอดฟูฟ่องเต็มอ่าง
ขัดสีฉวีวรรณเนื้อตัวสระผมหมักหัวจนหอมกรุ่น ใส่ใจพิถีพิถันบรรจงขัดถูทุกซอกมุมราวกับเข้าคอร์สเจ้าสาวก็ไม่ปาน
ก็ค่ำคืนนี้เธอจะได้เข้าหอ...อุ๊ย! คิดไปนั่น
ไม่หรอก...ค่ำคืนนี้แหละที่เธอจะเริงโลดบทสวาทให้ฉ่ำชื่นอุรา
หลังจากใครบางคนปล่อยอารมณ์เธอให้ค้างๆ คาๆ ในห้องทำงานเมื่อสัปดาห์ก่อน
ในหัวคิดย้อนกลับไปถึงวันชื่นคืนสุขที่ถูกภาคินลงทัณฑ์สวาทด้วยหลากท่วงท่าหลายลีลาที่ล้วนเด็ดดวงสะเด็ดสะเด่าเร้าใจจนเตียงนอนแทบไหม้
ที่ไหนๆ ในบ้านหลังนี้ก็ล้วนแต่มีภาพความทรงจำอันเร่าร้อนระหว่างเขากับหล่อนทั้งนั้น
“อึ๊ย....!” กลีบปากอิ่มตึงร้องลั่นด้วยความสยิวกิ้วกับความคิดซุกซนของตัวเองไหวไหล่ขึ้นมาพร้อมกับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างครึ้มอกครึ้มใจล้นเหลือเมื่อคิดไปล่วงหน้าว่าค่ำคืนนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
“เย...เย่...เย...เย่...เย...เย่...เย้...เย...เย่...เย...เย่...เย...เย้...เย้...”
ร้องฮัมเพลงตามไปกับเสียงจากลำโพงวิทยุอย่างอารมณ์ดีมีความสุข นานแค่ไหนกันแล้วที่หล่อนไม่ได้รู้สึกสุขล้นๆ
โดยไม่ต้องเสแสร้งแกล้งทำ แต่ออกมาจากข้างในจริงๆ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
ฝ่าเท้าเรียวขาวก็ก้าวออกมาจากอ่างน้ำอย่างสดชื่น บัวสวรรค์พาใบหน้าอันสดใสเปล่งปลั่งดั่งสาวน้อยวัยแรกแย้มมายืนอยู่หน้ากระจก
สายตาส่องสำรวจชื่นชมภาพเรือนร่างอันงดงามไร้ที่ติที่ได้มาจากการควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอในฟิตเนส
หล่อนเชื่อว่าหากเราตั้งใจและทุ่มเทให้กับสิ่งใด
ผลของมันย่อมออกมาดียอดเยี่ยม ทั้งการทำงาน และดูแลรูปร่างอย่างเข้มงวดจริงจัง
แต่สิ่งหนึ่งที่หล่อนไม่บังอาจจะไปกะเกณฑ์บังคับได้
นั่นก็คือไอ้เจ้าสิ่งมีชีวิตที่มีหัวจิตหัวใจเป็นของตัวเอง และอยู่เหนือการควบคุม
อย่าว่าแต่ควบคุมคนอื่นเลย
หล่อนยังควบคุมตัวเองไม่ได้ ก็ดูอย่างตอนนี้สิ ที่คิดพิเรนทร์อะไร
ถึงได้โดดงานมาเสียดื้อๆ แถมส่งซิกส์ให้เลขาสาวส่งสาส์นถึงเขาคนนั้น
“แล้วถ้าเกิดอีตานั่นไม่เก็ทล่ะ...ว่าเรามารออยู่ที่นี่?”
คิ้วเรียวขมวดย่น ที่จู่ๆ
ก็เกิดความสงสัยขึ้นมาว่าภาคินอาจจะไม่เข้าใจว่าหล่อนกำลังบอกเขาทางอ้อมว่ามารออยู่ที่นี่
มันเป็นวิธีอ่อยแบบเนียนๆ
ที่น่าจะรู้กันเฉพาะเขากับหล่อน
หลายคืนที่นายวิศวกรหนุ่มจอมก่อกวนหมั่นโทรมากวนประสาท
กวนอกกวนใจ และหล่อนก็เล่นตัวไปเบาๆ รับช้าบ้าง ไม่รับครั้งแรกบ้าง
ยกเว้นสองคืนที่ปิดโทรศัพท์หนีเสียดื้อๆ...ตั้งใจปล่อยให้ลงแดง แต่คนที่จะลงแดงกลับเป็นหล่อนเอง
จึงวางแผนเก็บผ้าผ่อนหนีหน้ามานี่ ทั้งที่วันนี้มีนัดคุยเรื่องงานกับเขาที่ออฟฟิศ
“ไม่น่าโง่น่า
เป็นตั้งวิศวกร” หล่อนส่ายหัวเบาๆ ไล่ความกังวลใจว่าจะมารอเก้อออกไปจากสมองเสีย
แล้วคว้าขวดน้ำมันพริมโรสผสมน้ำมันมะกอกมาชโลมลูบไล้ไปบนผิวหมาดชื้นเปล่งปลั่งเพื่อถนอมความชุ่มฉ่ำไว้ให้กับผิว
กลิ่นอ่อนๆ
ของน้ำมันหอมช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อและเส้นประสาท มันจะดีกว่ามาก
หากมีใครมาลูบไล้สัมผัสให้แทนที่จะใช้มือตัวเองแบบนี้
มือเรียวลูบไล่ไปตามแพรผิวนวลเนียนเรียบลื่น
ลำคอเรียวระหง ลงมายังบ่าไหล่ และแขนทั้งสองข้าง
ผิวเนื้อชะอุ่มชุ่มชื่นจากการอาบมาหมาดๆ เปล่งปลั่งงนวลเนียน
ฝ่ามือลูบวนที่หน้าท้อง
ไปยังแผ่นหลัง แล้วไล่กอบขึ้นมาที่ทรวงเต้าอย่างเร้าอารมณ์
“อื้ม....”
นึกถึงฝ่ามือหยาบใหญ่ที่ไล่ลูบ ขยุ้มขยำเคล้นคลึงสองเต้าอย่างเมามัน
ปลายยอดสีชมพูก็ชูชันขึ้นมา
“อ่า....อื้ม...”
ยังไม่ใช่ตอนนี้
ดวงตาที่พริ้มปิดปรือเปิดมองนัยน์ตาหยาดเยิ้มหวานหยดอยากรสสวาทของตัวเอง...หล่อนก็แค่เตรียมตัวเองให้พร้อมรับสำหรับศึกหนักในค่ำคืนนี้
อย่าเพิ่งโหมโรงตอนนี้เลย
รอผู้เชี่ยวชาญตัวพ่อมาบรรเลงให้มันถึงใจกว่ากันเยอะ
แค่คิดก็สยิวจนขนในกายทุกเส้นลุกซู่
“ว่าแต่ว่า
ทำไมยังไม่มานะ?” คิดสงสัยอยู่ไม่น้อย ระยะทางจากกรุงเทพฯ ถึงที่นี่
ขับรถสามสี่ชั่วโมงก็น่าจะถึงแล้ว
บัวสวรรค์ไล่ความกังวลออกไป
หวังในใจลึกๆ ว่าพอเปิดประตูห้องน้ำออกมาที่ห้องโถง
อาจจะเจอภาคินมานั่งจิบไวน์เซอร์ไพร์ซ อย่างครั้งก่อน
แต่หลังจากเสร็จกิจธุระในห้องอาบน้ำและยักย้ายสะโพกพาตัวเองมาที่ห้องโถงกลับว่างเปล่า
ไร้เงาของแขกไม่ได้รับเชิญเช่นครั้งก่อน
ใบหน้างามขมวดยุ่งเหยิง
ดวงตางามขุ่นนิดๆ ตวัดมองนาฬิกาที่ข้างฝา บอกเวลาสามทุ่ม
คำนวณคร่าวๆ
ภาคินไปพบเธอที่บริษัทตอนบ่ายตามนัดหมาย
และถ้าเขาพร้อมจะแล่นจากที่นั่นเพื่อมาพบเธอที่นี่ทันทีที่รู้พิกัดเป้าหมายปลายทางจากอิงอร
ป่านนี้ก็น่าจะถึงแล้ว
“หรือว่าหมอนั่นไม่รู้จริงๆ
ว่าเรามารออยู่ที่นี่?”
ถามตัวเองด้วยความสงสัย
คิดได้ดังนั้นก็เดินปรี่ไปยังโทรศัพท์ เกือบจะโทรไปหาเขา
แต่ก็ยั้งใจเอาไว้ได้เสียก่อน
เกือบแล้วเชียว...เกือบแล้ว...ที่หล่อนจะเสียหน้าเบาๆ
เผยไต๋ให้เขารู้ว่ากำลังวางแผนอะไรอยู่
ก็แค่ต้อนหมูเข้าอวย...คริ...คริ
“หมอนั่นไม่น่าโง่”
แต่ผู้ชายก็มักโง่เรื่องที่มันไม่น่าโง่ทั้งหลายแหล่
และโดยเฉพาะมาตกม้าตายเรื่องผู้หญิงนี่แหละ
“ถ้านายภาคินไม่มา
ก็เท่ากับเรามาเสียเวลาเปล่าสิ?” ถามเองก็คงต้องตอบตัวเอง
เพื่อแก้ความกลัดกลุ้มหัวใจ หล่อนเลยไปเปิดไวน์ เอามาจิบฆ่าเวลา พร้อมกับเปิดซีรี่ย์เกาหลีดูไป
แต่หัวใจและสายตาก็ไปอยู่ที่เข็มนาฬิกาข้างฝา และคนที่รอก็ยังมาไม่ถึงเสียที
กว่าจะรู้ตัว
ก็นอนดูซีรี่ย์หมดไปครึ่งแผ่น ไวน์อีกครึ่งขวด จากอากาศที่เริ่มเย็นสบาย
กลายเป็นร้อนรุ่มเพราะฤทธิ์ไวน์ แถมเท่านั้นไม่พอ วิคตอเรียซีเคร็ทสุดเซ็กซี่คอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดที่ถอยมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะก็ไม่ได้อวดโฉมให้เขาเห็นน่ะสิ
“โอ้ย! อีตาซื่อบื้อเอ๊ย!
สรุปว่างั่งจริงใช่ไหมเนี่ย?” เจ้าหล่อนแหวแว้ดเมื่อเข็มนาฬิกากำลังจะกระดิกไปใกล้เวลาห้าทุ่มประเทศไทย
พร้อมกับไอ้เสียงโหวกเหวกโวยวายที่ดังสะเทือนเลื่อนลั่นท้องฟ้านภากาศราวกับว่ามีซ้อมคอนเสิร์ตจัดอยู่ในพื้นที่ไม่ใกล้ไม่ไกลนัก
มือที่กวัดไกวแก้วทรงสูงไปมา
ตัดสินใจกรอกไวน์ที่เหลืออยู่ครึ่งแก้วกรึบเดียวลงลำคอ แล้วลุกพรวดพราดไปหาตัวช่วย
ดีนะที่ครั้งนี้หล่อนรอบคอบกว่าครั้งที่แล้ว
ของเทียมในมือแม้จะเป็นอุปกรณ์ช่วยเหลือที่ไร้ชีวิตจิตใจ
ให้ความรู้สึกสู้ของจริงไม่ได้ แต่ก็เป็นตัวตายตัวแทนไว้ช่วยเหลือในยามยากอย่างเวลานี้
“อีตาซื่อบื้อเอ๊ย! ไม่มาก็อย่ามา คิดว่าฉันจะง้อหรือไง?”
มือเรียวกำเจ้าแท่งดิลโด้ขนาดพอเหมาะพอเจาะที่ล้วงเอามาจากกล่องลับในกระเป๋าเสื้อผ้า
เดินกลับมาที่โซฟาตัวใหญ่ ดับไฟในห้องโถงเหลือเพียงวอร์มไลท์ วับแวมอยู่ตามมุมเสา
ซีรี่ย์เกาหลีเรื่องยาวเนื้อหายืดยาดแสนน่าเบื่อยังคงดำเนินต่อไป
โดยไม่ได้รับความสนใจจากเธอเลย
ยามนี้บัวสวรรค์ร้อนรุ่มไปทั้งเนื้อตัว
เพราะอุ่นเครื่องด้วยไวน์ แถมยังบิ้วอารมณ์รอผู้ชายมาหลายชั่วโมง
“ให้ตายเถอะ
สุดท้ายฉันก็ต้องมาลงเอยกับอิหรอบเดิมอย่างนั้นเหรอ?” หล่อนถามตัวเองอย่างหงุดหงิดหัวใจ
เมื่อผู้ชายที่รอคอยไม่ยอมโผล่หัวโผล่ตาโผล่หน้ามาเสียที
ร่างสาวสะโอดสะองทิ้งตัวลงบนโซฟาอีกครั้ง
หลับดวงตาลง หายใจหอบกระเส่าด้วยฤทธิ์น้ำเมาราคาหลายหมื่นอย่างร้อนรุ่ม
ก่อนจะใช้แท่งของปลอมถูไถไปตามเนื้อตัว
ด้วยวัสดุดีเยี่ยมเกรดพรีเมี่ยมซึ่งผลิตมาเพื่อให้ใกล้เคียงของจริงที่สุด
ปลุกอารมณ์ของเธอให้พล่านพุ่ง
แต่สิ่งที่ไม่เหมือน
คือความร้อนเร่า เลือดเนื้อชีวิตและอารมณ์ความรู้สึกเฉกเช่นผู้ชายจริงๆ
“อ่า....”
ปัง...ปัง...ปัง...
เสียงทุบประตูดังขึ้น
ขณะที่หล่อนกำลังไล้วนส่วนปลายของดิลโด้ในมือไปตามเนื้อตัว
ร่างที่กำลังเคลิบเคลิ้มไหวปล่อยกายใจให้ไหลล่องไปอารมณ์ที่คุคลั่งสะดุ้งขึ้นมาสุดตัว
ดวงตาเปิดพรึ่บ หัวใจเต้นตึ่กตั่กแรง วางแท่งดิลโด้ในมือลงข้างตัว
ปัง...ปัง...ปัง...ปัง...ปัง...
คราวนี้ทุบดังและยาวนานกว่า
“บัว...คุณบัว...คุณบัวสวรรค์”
เสียงทุ้มห้าวฟังดูไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไหร่ตะโกนเรียกชื่อหล่อนอยู่หน้าบ้าน
ร่างที่ยังนั่งนิ่งที่โซฟาขนนุ่มเด้งตัวพรวดขึ้นมา
หน้าตาถมึงทึงเดินไปยังประตูปลดล็อกกลอนแล้วกระชากผัวะเปิดออก
“มาทำไมไม่ทราบยะ?”
น้ำเสียงไม่พอใจถาม