7
“เจ้าหายไปมาลียะห์
ข้านั่งรอจนเมื่อยไปหมดแล้ว”
มีนาต่อว่าสาวใช้ทันทีที่ลียะห์โผล่หน้าเข้ามาให้เห็นพร้อมรอยยิ้มเกลื่อนไปทั่วหน้า
สร้างความประหลาดใจให้ผู้เป็นนายสาวไม่น้อย “เจ้ายิ้มอะไรของเจ้ากันลียะห์”
คนสงสัยอดจะเอ่ยถามไม่ได้แล้วก็ได้แต่นิ่งรอฟังคำตอบจากสาวใช้
“ก็องค์รัชทายาทเรียกให้ท่านหญิงขึ้นไปปรนนิบัติน่ะสิเจ้าคะ
แล้วยังสั่งให้ลียะห์มาตามท่านหญิงต่อหน้าท่านหญิงลัยลากับท่านหญิงนาดาด้วยนะเจ้าคะ”
“เจ้าว่าอะไรนะลียะห์”
มีนาร้องถามด้วยความตื่นเต้นระคนดีใจ อีกทั้งก็สะใจอยู่ไม่น้อย
“ก็อย่างที่บอกไปนั่นแหละเจ้าค่ะ
แต่ลียะห์ว่าท่านหญิงเร่งพรมน้ำหอมก่อนเถิดเจ้าค่ะ
จะได้รีบไปพบองค์รัชทายาทที่ตำหนัก ป่านนี้คงรอท่านหญิงนานแล้วนะเจ้าคะ”
ลียะห์เร่งไปหยิบน้ำหอมที่ทำขึ้นจากดอกไม้ที่ส่งกลิ่นหอมละมุนชวนหลงใหลยื่นให้นายสาว
จากนั้นก็เร่งสำรวจตรวจเสื้อผ้าหน้าผมของนายสาว แล้วพากันเดินออกจากห้องพักไปเพื่อไปยังที่พักขององค์รัชทายาท
“เร่งรีบจนตัวสั่นขนาดนี้
ระวังจะสะดุดข้าตัวเองหกล้มหน้าคะมำเสียก่อนละท่านหญิงมีนา”
ก่อนจะเดินผ่านสวนดอกไม้เสียงทักที่ดังตามหลังทำให้สองนายสาวรีบหันขวับไปมองทันที
ก่อนที่มีนาจะชักสีหน้าไม่พอใจใส่ในเวลาต่อมา
“ลัยลา
ข้าไม่เวลาจะมาเถียงกับเจ้าหรอกนะ เพราะองค์รัชทายาทรอข้าอยู่”
มีนาเหยียดปากยิ้มเยาะเล็กน้อย แล้วสะบัดตัวเดินจากไปแต่กลับมี นาดามาดักหน้าไว้
“หลีกทางให้ข้าเดี๋ยวนี้นาดา!” มีนาต่อว่าด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
เบี่ยงตัวจะเดินหนีไปแต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอม
“ทางเดินตรงนี้เป็นของเจ้าหรือไงกันท่านหญิงมีนา
ท่านถึงได้สั่งให้ข้าหลีกทางให้” ขาดคำของนาดา ลัยลาก็เดินมาขวางทางเอาไว้อีกคน
ในขณะที่ลียะห์ก็ถูกคนของลัยลาล็อกตัวเอาไว้ จึงมาช่วยนายสาวของตนเองไม่ได้
“นี่พวกเจ้าสองคนคิดจะรุมรังแกข้าอย่างนั้นหรือ”
มีนาตวาดใส่เสียงดัง ดิ้นรนออกจากสองสาวที่รุมกันจับตัวเธอเอาไว้
“ใครว่าล่ะ”
ลัยลายื่นมือบีบใต้คางของมีนาเอาไว้
แล้วจ้องเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่ายด้วยแววตาริษยา
“ลัยลา! นี่เจ้าคิดจะทำอะไรของเจ้า
แล้วเจ้าไม่รู้หรือว่าเวลานี้องค์รัชทายาทรอข้าอยู่ที่ตำหนัก”
“ก็เพราะข้ารู้ยังไงละ
ข้าถึงได้ทำ” เจ้าของเสียงยิ้มเยาะ จังหวะนั้นเองที่ลียะห์สลัดตัวจนหลุดจากสองสาวใช้และสิ่งแรกที่ลียะห์ทำก็คือผลักสนมคนโปรดขององค์รัชทายาททั้งสองคนออกไปให้พ้นนายสาวของตน
“ท่านรีบไปที่ตำหนักองค์รัชทายาทเถิดเจ้าค่ะ
ส่วนคนทางนี้ลียะห์จะจัดการเองเจ้าค่ะ” ไม่ต้องให้สาวใช้บอกอีกครั้งมีนาก็เร่งสาวเท้าตรงไปยังตำหนักขององค์รัชทายาททันที
โดยไม่รู้เลยว่าทุกการกระทำตกอยู่ในสายพระเนตรขององค์รัชทายาท
ที่แอ่งน้ำกลางโอเอซิส
มูนากำลังหันรีหันขวางว่าเธอควรทำอย่างไรดี
เมื่อจอมโจรหนวดเครายาวเฟื้อยไม่น่าชวนมองเอาเสียเลย เรียกให้เธอลงไปช่วยขัดหลังให้
“มูนา! ไม่ได้ยินที่ข้าสั่งหรือไง เจ้าถึงได้ชักช้านัก”
เสียงห้าวห้วนดังมาหลังโขดหินขนาดใหญ่ ที่เป็นเกาะกำบังสายตาผู้คนเป็นอย่างดี
เรียกให้มูนาหันขวับไปมองพร้อมหัวใจถี่รัว
“วันหลังได้หรือไม่ท่าน
วันนี้ข้าไม่อยากลงน้ำ ข้า...ข้า...หนาว แล้วตัวก็สั่นด้วย
ข้า...ข้ารู้สึกเหมือนตัวเองจะจับไข้” คนบอกจะจับไข้ก้าวเท้าถอยห่างโขดหินทีละนิดๆ
เพื่อจะได้หาทางหนี แต่แม้หญิงสาวจะขยับเท้าให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วก็ตามที
แต่กระนั้นคนอย่างจอมโจรเหยี่ยวดำแห่งบาลายูดาก็ยังได้ยินเสียงเคลื่อนไหวนั้น
“หากเจ้าเดินหนีอีกก้าวเดียว
ข้าจะขึ้นไปลากเจ้าลงมาในแอ่งน้ำเดี๋ยวนี้แน่ มูนา” กระแสเสียงเต็มไปด้วยอำนาจและมีพลังบางอย่างทำให้คนได้ยินยืนตัวแข็งทื่อราวกับว่าร่างกายถูกตรึงไว้ด้วยเวทมนตร์คาถา
“ทะ...ท่าน...ท่านรู้ได้อย่างไรว่าข้า...เอ่อ...ข้าเดินหนีท่าน”
มูนาเอ่ยถามเสียงตะกุกตะกัก
“เพราะข้าฉลาดไงล่ะ
อีกอย่าง...ประสาทการรับรู้ของข้าก็ไวนัก
ส่วนเจ้าหากไม่อยากถูกข้าลงโทษก็รีบเดินกลับมาทำตามที่ข้าสั่งเดี๋ยวนี้มูนา” จอมโจรหนุ่มคุยโอ้อวด
ก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากที่แฝงไว้ด้วยความเจ้าเล่ห์
อีกทั้งความกระหายบางอย่างก็กำลังแผ่ซ่านไปทั่วร่างอย่างห้ามไม่อยู่
ทั้งที่รอบกายมีสายน้ำเย็นฉ่ำโอบล้อมอยู่
“มีใครเคยบอกท่านหรือไม่
ว่าท่านน่ะช่างเอาแต่ใจตัวเองยิ่งนัก” มูนาเดินบ่นไปเรื่อยจนมาหยุดหลังโขดหิน
แล้วก็ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนที่นั่งพิงโขดหินอย่างสบายใจอยู่นั้นหาได้สวมใส่อะไรลงไปในน้ำ
‘แล้วนี่ข้าต้องทำเช่นไรกันเล่า ท่านพ่อช่วยข้าคิดหน่อยสิท่าน
ว่าข้าควรทำอย่างไรดีถึงจะรอดพ้นเงื้อมมือของจอมโจรผู้นี้ได้’ หญิงสาวคร่ำครวญอยู่ในใจ
ใบหน้านวลแดงระเรื่อเมื่อคิดว่าตัวเองต้องลงไปใกล้ชิดกับบุรุษหนุ่ม
แม้ว่าอีกฝ่ายจะหน้าตาไม่ชวนมองเอาเสียก็ตามที
แต่ไม่รู้ทำไมหัวใจของเธอถึงเต้นรัวเร็วแบบนี้
“มูนา”
น้ำเสียงดุดันดังขึ้นอีกครั้ง เจ้าของชื่อจึงจำใจต้องเดินออกจากหลังโขดหินขนาดใหญ่
ผิวแก้มของหญิงสาวร้อนผ่าวอย่างห้ามไม่อยู่
เพราะแม้ว่าบริเวณแอ่งน้ำแห่งนี้จะไร้แสงจากตะเกียงแต่แสงจากดวงจันทร์ก็สาดส่องลงมาให้ดวงตาคู่งามมองเห็นเรือนร่างของบุรุษหนุ่ม
หากแม้เพ่งมองดูผิวของชายหนุ่มให้ดีเธอก็คิดว่าเขาผู้นั้นคงจะไม่ใช่โจรธรรมดาเสียแล้ว
เพราะผิวพรรณที่แช่อยู่ในน้ำดูดีเกินกว่าเขาจะเกิดมาเป็นโจรโดยกำเนิด
หรือว่า...เขาอาจจะเป็นลูกผู้รากมากดีจากที่ไหนแล้วปลอมตัวมาเป็นโจรอย่างนั้นหรือ
แล้วเขาจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไรกันล่ะ?
ศีรษะเล็กส่ายสะบัดกับความคิดที่ฟุ้งซ่านของตนเอง
แล้วหันมาสนใจกับคำสั่งที่เธอไม่อาจขัดขืนได้ต่อ
“คิดอะไรอยู่”
น้ำเสียงกระเส่าอย่างห้ามไม่อยู่ดังชิดผิวแก้มสาว
ที่เจ้าตัวก็ไม่รู้หรอกว่าชายหนุ่มที่นั่งแช่อยู่ในแอ่งน้ำลุกขึ้นมาน้ำตอนไหน
และเวลานี้เขากำลังพาเธอเข้าไปหลบลี้สายตาคนหลังโขดหิน
“ทะ...ท่านปล่อยข้านะ
ปล่อย ขะ...ข้าเป็นผู้ชายนะท่าน” น้ำเสียงหวานสั่นเอ่ยบอกด้วยความหลงลืม
เพราะลมหายใจร้อนผ่าวที่เป่ารดผิวแก้ม ลากมายังปลายจมูกโด่งรั้น
“เจ้าคิดว่าข้าโง่หรือไง...มูนา”
โจรหนุ่มกระซิบเสียงแตกพร่า กดปากหยักร้อนระอุทาบลงบนกลีบปากอิ่มสวย
ชายหนุ่มกดปากคลึงเบาๆ รอบริมฝีปากอิ่มสวยอย่างเฝ้ารอโอกาส
มูนาตัวแข็งทื่อไปหมด
เพราะไม่เคยถูกชายใดแตะต้องหรือใกล้ชิดมากขนาดนี้
อันเนื่องมาจากตามธรรมเนียมแล้วหญิงชายไม่ควรใกล้ชิดกัน สองมือเล็กยกขึ้นผลักไสอกกว้างออกห่าง
แต่ชายหนุ่มไม่สะดุ้งสะเทือนแม้แต่น้อย
มิหนำซ้ำปากร้อนยังบดคลึงกลีบปากอิ่มสวยหนักหน่วงมากยิ่งขึ้นๆ
“อื้อ! ปละ...ปล่อย...ปล่อย... ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะท่าน ท่านกำลังทำผิดต่อข้า”
สิ้นเสียงร้องขอปลายลิ้นอุ่นที่เฝ้ารอโอกาสมานานก็บุกแทรกเข้าไปซอกซอนอย่างชำนาญการในโพรงปากเล็ก
คนถูกล่วงล้ำสะบัดหน้าหนีแต่กลับถูกมือใหญ่ล็อกท้ายทอยเล็กเอาไว้
ก่อนที่ปากหยักร้อนจะกดคลึงริมฝีปากอิ่มสวยอย่างลงโทษ
จอมโจรเหยี่ยวดำแห่งบาลายูดาหลงระเริงกับความหวานซาบซ่านที่ได้รับจากริมฝีปากอิ่มสวยจนลืมทุกสรรพสิ่งรอบกาย
ชายหนุ่มกดร่างบอบบางที่ถูกซุกซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อผ้าหลายชั้นให้นิ่งพิงโขดหิน
โดยไม่คิดจะละริมฝีปากหยักร้อนที่เฝ้าดูดดื่มความหวานจากหญิงสาวแม้สักวินาที
ฝ่ามือใหญ่ลากผ่านเนื้อเสื้อผ้าที่ปกปิดเรือนร่างอันน่าปรารถนาแผ่วเบาแล้วค่อยๆ
ปลดพันธนาการออก โดยที่หญิงสาวไม่มีแม้เรี่ยวแรงจะปัดป้องตัวเองได้เลย
เพราะจุมพิตหวามไหวที่ไม่เคยพานพบมาก่อนเลยในชีวิตวัยสาวแรก
“มูนา...เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้ารอเวลานี้มานานแค่ไหน”
โจรหนุ่มที่กำลังจะพรากสวาทเหยื่อสาวที่ตนแอบชอบมาเนิ่นนาน...เขาชอบจนยากจะลบเลือนออกไปจากใจ
ได้ละริมฝีปากมากระซิบเสียงแหบแห้งชิดใบหูขาวนุ่ม ฟันขาวสะอาดขบเม้มหยอกเอิน
ก่อนตวัดปลายลิ้นอุ่นหยอกเย้าเข้าไปในซอกหูนุ่มน่ารัก
มูนาสะดุ้งสุดตัว
สติสตังที่แตกกระเจิงจนแทบกู่ไม่กลับหวนกลับมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ
เพียงเพราะปลายลิ้นอุ่นของจอมโจรหนุ่ม ดวงตาคู่งามวาววับช้อนมองตาคู่คม หญิงสาวแทบจะตาพร่าไปอีกครั้ง
เมื่อปากหยักร้อนขยับยิ้มหลังใบหน้าหล่อคมคายที่ถูกปกคลุมด้วยหนวดเครายาวเฟื้อยเคลื่อนมาเสมอกันและกัน
“ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะท่าน”
มูนาออกคำสั่งเสียงสั่นๆ
และเพิ่งจะรู้ตัวว่าเสื้อผ้าที่เธอใช้ปกปิดร่างกายถูกปลดออกจนเหลือเพียงเนื้อผ้าบางๆ
ปิดเรือนกายเย้ายวนเอาไว้ ดวงหน้าสวยแดงก่ำ ทั้งเขินอายทั้งโกรธเคืองโจรหนุ่ม
“ข้าไม่มีวันปล่อยเจ้าอีกแล้ว...
มูนา เจ้ารู้หรือไม่ว่าโทษของเจ้าหนักหนาแค่ไหน ที่บังอาจหลอกข้า”
แม้จะรู้อยู่เต็มอกแต่แรกว่าหญิงสาวคือผู้หญิง แต่คนเจ้าเล่ห์อย่างจอมโจรเหยี่ยวดำแห่งบาลายูดาก็ยังใช้ข้ออ้างนี้มาข่มขู่หญิงสาว