เสน่หารามาวตี
My Rating
จากผู้อ่าน 0 คน.
ในงานแต่งงานระหว่างรามิล
ศิวัฒน์ชัย มหาเศรษฐีหนุ่มหล่อ ผู้ทรงอิทธิพลแถบชายฝั่งทะเลอันดามัน กับปริญชยา วิจิตรา
นักประพันธ์สาวที่โรงแรมเพิร์ลไดมอนซึ่งเป็นโรงแรมหรูระดับห้าดาวบนชายหาดสีขาวสะอาดในจังหวัดภาคใต้… สาวน้อยเจ้าของร่างอรชร
ส่วนสูงร้อยหกสิบสี่เซนติเมตรในชุดเดรสสีเหลืองอ่อนอมยิ้มให้กับความน่ารักเจ้าบ่าวและเจ้าสาวของงานในคืนนี้
การต้อนรับแขกถึงจะเหน็ดเหนื่อยแค่ไหนแต่รอยยิ้มนั้นไม่เคยเลือนหายไปจากไปหน้าเพราะหล่อนมีความสุขมากที่ได้เห็นพี่ชายแต่งงานกับผู้หญิงที่เขารัก
แขกคนสุดท้ายเข้างานแล้ว
หญิงสาวจึงเดินเลี่ยงออกมารับลมที่ระเบียงด้านนอกซึ่งอยู่ติดกับห้องแกรนด์บอลรูมที่เป็นห้องจัดงาน
สายตาสะดุดกับร่างสูงของสาโรจน์ซึ่งเป็นแขกของฝ่ายเจ้าสาวกำลังยืนทอดมองออกไปนอกระเบียง
ร่างอรชรก้าวเข้าไปหาเพื่อทักทาย แต่ทว่ารองเท้าส้นสูงที่สวมอยู่เกิดพลิกกะทันหันจนทำให้เสียหลักเซถลา
“โอ๊ย!...”
สาโรจน์หันขวับมามอง สองแขนแข็งแรงรีบยื่นเข้าไปช่วยประคองทันเวลาก่อนที่หญิงสาวจะล้มกระแทกกับพื้น
“คุณรามาวตีเป็นอะไรหรือเปล่าครับ?” ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนอย่างสุภาพบุรุษที่ดีพึงกระทำ
“ไม่เป็นไรค่ะคุณสาโรจน์
เรแค่รองเท้าพลิก ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยเรเอาไว้ ไม่งั้นมีหวังเรคงล้มคว่ำ
หน้ากระแทกกับพื้นแน่ๆ” หญิงสาวยิ้มอายๆ
กับความซุ่มซ่านของตัวเอง
“สงสัยคุณรามาวตีจะยืนนานน่ะครับ
ข้อเท้าเลยพลิก”
“คงจะจริงค่ะ
วันนี้แขกมางานเยอะมาก”
รามาวตีสนทนากับสาโรจน์ด้วยไมตรีอันดี
เพราะอย่างน้อยเขาก็มีความเป็นสุภาพบุรุษ แต่หล่อนไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองกับสาโรจน์กลายเป็นเป้าสายตาของใครคนหนึ่งเข้าเสียแล้ว...
“ทำไมคุณสาโรจน์หลบมาอยู่นี่ที่ล่ะคะ”
“ข้างในมันดูอึดอัดน่ะครับ
ผมเลยหลบออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์สักพัก”
“ขอบคุณนะคะที่อุตส่าห์มางานแต่งของพี่ชายเร”
“อย่าขอบคุณเลยครับ
แป้งก็เหมือนน้องสาวผม ยังไงซะผมก็ต้องมาแสดงความยินดีในวันสำคัญของเขา” สาโรจน์พูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“คุณสาโรจน์คงไม่โกรธพี่ชายเรใช่ไหมคะ” รามาวตีถามต่อด้วยรู้ดีว่าผู้ชายตรงหน้ารู้สึกอย่างไรกับพี่สะใภ้ของตนเอง
“เฮ้อ...” สาโรจน์ถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ก็อยากจะโกรธนะครับ
แต่ทำไงได้ในเมื่อแป้งรักเขา ผมก็ต้องทำใจให้ไม่โกรธและยินดีกับความสุขของแป้ง”
“ไม่เอาสิคะ
อย่าถอนหายใจอย่างนั้น เรเชื่อว่าพี่โรมต้องดูแลพี่แป้งเป็นอย่างดี
และผู้ชายที่เป็นสุภาพบุรุษอย่างคุณสาโรจน์ต้องได้เจอผู้หญิงดีๆ แน่นอนค่ะ” รามาวตีเอ่ยเสียงอ่อนโยนหวานละมุนและสบตาสาโรจน์อย่างให้กำลังใจ
“ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มคลี่ยิ้มบางๆ
“เข้าไปในงานเถอะนะคะ
พี่แป้งอาจจะกำลังมองหาพี่ชายที่น่ารักอย่างคุณอยู่”
แต่ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะขยับตัว
เสียงเข้มๆ ของใครคนหนึ่งดังแทรกขึ้น
“หลบมาอยู่ตรงนี้กันนี่เอง...” น้ำเสียงเจือไว้ด้วยความยียวนก่อนจะหันไปทางสาโรจน์
“...แป้งถามหาแกน่ะ”
“ฉันจะเข้าไปเดี๋ยวนี้แหละ” สาโรจน์ตอบผู้มาใหม่
ก่อนจะหันไปทางรามาวตี “ไปพร้อมกันเลยไหมครับคุณรามาวตี?”
“ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้าและทำท่าจะก้าวตามสาโรจน์เข้าไป
แต่เสียงเข้มของปฏิภาณขัดขึ้นอย่างห้วนๆ
“เดี๋ยวก่อนคุณรามาวตี...”
คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากัน
“มีอะไรคะ?”
“ผมมีเรื่องต้องคุยกับคุณตามลำพัง” เขาเน้นคำหลัง
“ก็ได้ค่ะ”
รามาวตีรับคำก่อนจะหันไปสบตากับสาโรจน์เป็นเชิงบอกให้เข้าไปก่อน
สาโรจน์พยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะเป็นฝ่ายเดินเลี่ยงไปทั้งๆ
ที่ใจก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเพื่อนของตนมีเรื่องอะไรจะคุยกับสาวน้อยคนนี้
“มีอะไรหรือคะ” รามาวตีถามขึ้นเมื่อสาโรจน์เดินไปไกลแล้ว
“ผมแค่อยากจะเตือนคุณในฐานะญาติ ถ้าคิดจะพลอดรักกับผู้ชายก็ควรเลือกสถานที่และความเหมาะสมบ้าง
เป็นสาวเป็นนางทำตัวแบบนี้มีแต่จะหมดราคา” ปฏิภาณเล่นงานรามาวตีแบบไม่ให้ตั้งตัวทันที
“ฉันไม่ได้พลอดรักกับใคร
ฉันบริสุทธิ์ใจไม่ได้ทำอะไรน่าเกลียดอย่างที่คุณกล่าวหา” รามาวตีโต้กลับอย่างฉุนๆ
เช่นกัน
“บริสุทธิ์ใจจนถึงขนาดมายืนกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอย่างไม่อายใครอย่างเมื่อกี้น่ะหรอ” ปฏิภาณย้อนถามเสียงห้วนปนเยาะหยัน
รามาวตีไม่เข้าใจว่าทำไมปฏิภาณจะต้องมาทำท่าโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงใส่หล่อนแบบนี้
ใบหน้าหล่อคมคร้ามของเขาบึ้งตึงเคร่งขรึม ดวงตาเครียดเขม็งจนดูน่ากลัว
หากแต่คนที่ไม่ยอมคนอย่างหล่อนไม่มีกะจิตกะใจจะคิดกลัวเขาหรอก
ใบหน้าสวยหวานชูคอตอบอย่างถือดีเช่นกัน
“มันก็แล้วแต่คุณจะคิด
แล้วมันเรื่องอะไรของคุณไม่ทราบคะ”
คำพูดเหมือนไม่แยแสและแสนอวดดีไม่ต่างอะไรกับการเอาน้ำมันถังใหญ่ๆ
ราดลงบนกองไฟที่กำลังร้อนระอุ
“ผมก็ไม่ได้อยากยุ่งนักหรอก
ถ้าไม่เห็นว่าคุณเป็นญาติของน้องสาวผม เห็นท่าทางติ๋มๆ ทำเป็นใสซื่อบริสุทธิ์
ที่แท้ก็บ้าผู้ชายใช่เล่น”
ใบหน้าเนียนแดงแปร๊ดขึ้นด้วยความโกรธและอับอาย
ทันใดนั้นมือเล็กๆ
ก็ยกขึ้นเตรียมจะฟาดลงไปที่ใบหน้าหล่อคมเพื่อสั่งสอนให้เขารู้ซึ้งบ้างว่าอย่ามาพูดจาพล่อยๆ
กับหล่อน
แต่ยังไม่ทันที่มือข้างนั้นจะปลิวเข้าไปกระทบใบหน้าของเขาก็ถูกมือใหญ่รวบเอาไว้เสียก่อน
พร้อมกับที่เอวเล็กถูกกระชากเข้าไปกอด!
“ทำไม? พูดแทงใจดำแล้วทนฟังไม่ได้หรือไง”
ใบหน้าหล่อโน้มลงมาหา
ลมหายใจร้อนผ่าวพ่นรดริมฝีปากอิ่มในระยะประชิด จนรามาวตีรู้สึกสะท้านและขนลุกซู่ไปทั้งร่าง
“ถึงฉันจะบ้าผู้ชายแค่ไหน
แต่ผู้ชายคนเดียวที่ฉันไม่คิดจะพิศวาสก็คือคุณ” เสียงหวานสบถใส่พลางเชิดหน้าขึ้นจ้องตาอย่างท้าทาย
“ถ้าอย่างนั้นเรามาพิสูจน์กันหน่อย
ว่ามันจะจริงอย่างที่คุณพูดหรือเปล่า”
จบคำริมฝีปากหยักก็โฉบลงมาบดขยี้จูบไปทั่วใบหน้างดงาม
รามาวตีดิ้นรนสุดเรี่ยวแรง พยายามเบี่ยงใบหน้าหลบการระดมจูบอย่างตื่นตกใจ
“นี่คุณเป็นบ้าไปแล้วเหรอ!...ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!...บอกให้ปล่อย!” หญิงสาวร้องเสียงหลง
ดิ้นรนขลุกขลักให้หลุดจากพันธนาการของเขาเป็นพัลวัน มือทุบตีระรัวเข้าที่แผงอกแกร่ง
หากแต่ร่างหนาไม่สะทกสะเทือนสักนิด
ริมฝีปากร้อนรุ่มยังคงระดมจูบอย่างป่าเถื่อนรุนแรง มือหนาข้างหนึ่งสอดขึ้นที่ท้ายทอยได้รูป
ตรึงเอาไว้ไม่ให้ขยับ
ก่อนจะลากไล้ริมฝีปากหยักไปประกบกลีบปากนุ่มปิดกั้นเสียงร้องของหล่อนจนเงียบสนิท
ใช้ความช่ำชองบังคับให้ริมฝีปากอ่อนนุ่มเผยอเปิด
แล้วจึงแทรกเรียวลิ้นอันร้ายกาจจู่โจมเข้าไปในโพรงปากแสนหวานทันที
ใช้ความชำนาญพลิกพลิ้วแทรกไซ้ไปทั่วทุกอณูดูดดื่มกวาดเซาะเอาความหอมหวานแล้วถ่ายเทความเร่าร้อนรัญจวนใส่เข้าไปแทน
รามาวตีอ่อนเปลี้ยไปทั้งร่าง
สัมผัสอันหวามหวานนั้นเหมือนจะสูบเอาเรี่ยวแรงของหล่อนไปจนหมดสิ้น
พยายามเตือนสติตัวเองไม่ให้ยอมพ่ายแพ้ แต่ทว่าในวินาทีนั้นสมองคล้ายจะหยุดสั่งการไปชั่วขณะ
สองแขนบอบบางเลื่อนปะป่ายขึ้นไปตามอกแกร่งจนกระทั่งเอื้อมตวัดรัดรอบต้นคอเขาเอาไว้แน่น
พลางเผยอรับการจุมพิตดูดดื่มเร่าร้อน ส่งเรียวลิ้นนุ่มเข้าไปกระหวัดเกี่ยวพัวพันกับเรียวลิ้นอุ่นจัดอย่างกล้าๆ
กลัวๆ ทำเอาชายหนุ่มส่งครางลึกลอดไรฟันออกมาด้วยความพึงพอใจ
“อืม”
ความนุ่มนิ่มเนียนละเอียดของผิวกายสาวที่ได้รับจากร่างอ้อนแอ้นในอ้อมกอดปลุกเร้าให้อารมณ์บางอย่างของชายหนุ่มพลุ่งพล่านขึ้นอย่างสุดระงับ
เพียงแค่ปฏิกิริยาตอบสนองเล็กๆ น้อยๆ
ของร่างอรชรก็ทำเอาความเป็นบุรุษแข็งขืนจนแทบระเบิดแตกเป็นเสี่ยงๆ
ปฏิภาณถอนจูบจากปากนุ่มราวกับกลีบดอกไม้เมื่อหญิงสาวทำท่าจะหายใจไม่ทัน
ปากอุ่นจัดและจมูกโด่งคมค่อยๆ เลาะริมไปที่ใบหูเล็กๆ ขบกัดเบาๆ อย่างหยอกเย้า
รามาวตีขนลุกซู่ไปทั้งร่างกับการสัมผัสเชิงยวนสวาทของเขา
ร่างนุ่มนิ่มที่หอมกรุ่นดั่งกลิ่นดอกไม้ป่าอันแสนบริสุทธิ์ช่างเย้ายวนอารมณ์ยิ่งนัก
ปฏิภาณผู้ซึ่งสามารถควบคุมตัวเองได้ดีมาตลอดเกือบจะตบะแตก
เขานึกอยากจะกระชากฉีกทึ้งอาภรณ์ทั้งหมดทิ้งไปเสียสิ้น ยกขาเรียวสวยขึ้นเกี่ยวกระหวัดรอบเอวแกร่ง
แล้วพาตัวเองดิ่งลึกเข้าสู่ความหฤหรรษ์อันแสนหวานที่ซุกซ่อนอยู่ในร่างกายของหล่อน
ชายหนุ่มตกใจในความต้องการอันรุนแรงของตน
ตระหนักในตอนนั้นเองว่าร่างนุ่มนิ่มแสนหวานซึ่งผุดผาดราวกับกุหลาบแรกแย้ม แท้จริงแล้วคือไฟดีๆ
นี่เอง...รามาวตีรวมเอาความหวานและความเร่าร้อนไว้ในตัวเองไม่ต่างอะไรกับน้ำผึ้งกลางเปลวไฟ
เสน่ห์อันแสนยั่วยวนของหล่อนนี่เองที่หลอกล่อให้ผู้ชายหลายคนต่างวิ่งพล่านเข้าหาความสวยของเปลวไฟอย่างเต็มใจ
แม้รู้ว่ามันจะร้อนระอุเพียงใดก็ตาม
และตอนนี้เขาก็กำลังจะเป็นหนึ่งในผู้ชายหน้าโง่พวกนั้น ที่หลงกระโจนเข้าไปในบ่วงเสน่หาของหล่อน แต่ช่างปะไร
เรื่องห่าเหวอย่างอื่นช่างหัวมันเถอะ ตอนนี้ร่างนุ่มๆ ของหล่อนน่าสนใจกว่าเป็นไหนๆ
เมื่อความเป็นหนุ่มถูกปลุกให้คึกคักขึ้นมา
มือกำยำจึงสนองตอบโดยการลูบไล้สำรวจไปตามสะโพกผาย เอวคอดกิ่ว
ไล้ขึ้นไปตามแผ่นหลังนวลเนียนก่อนจะวนเข้ามาหาปทุมถันคู่งาม
สองมือทาบทับลงบนทรวงอกอวบอิ่มแล้วเริ่มเคล้นคลึงเบาๆ
ร่างบางสะดุ้งเฮือกและได้สติในตอนนั้น
ความอับอายแล่นเข้าจู่โจมหัวใจดวงน้อยทันทีเพราะตั้งแต่เล็กจนโตเป็นสาวยังไม่เคยมีมือของบุรุษใดได้สัมผัสความงามอันน่าหวงแหนนั้นเลย
สติสัมปชัญญะและสำนึกอันดีของผู้หญิงที่พึงรักนวลสงวนตัวกลับมาอีกครั้ง
รามาวตีผลักอกแกร่งนั้นออกห่าง ก่อนจะตวัดมือเล็ก กระทบใบหน้าคมคร้ามเต็มแรง
คราวนี้ไม่พลาดเป้าเพราะเขาไม่ทันได้ตั้งตัว
ฉาดดด!
“คนเลว!!” หญิงสาวตวาดลั่น
ตัวสั่นเทาราวกับลูกนกน้อยที่เพิ่งผ่านพายุฝนครั้งใหญ่มาหมาดๆ
“ผมก็เห็นคุณร่วมมือดีนี่
นึกว่าชอบเสียอีก” เขายิ้มมุมปากยวนยั่ว
“คนบ้า!
คนเถื่อน! ฉันเกลียดคุณ!”
รามาวตีอับอายที่สุดในชีวิตเมื่อโดนย้อนอย่างยียวนเย้ยหยัน
กำปั้นเล็กๆ ทั้งสองข้างระดมทุบตีเขาอย่างบ้าคลั่งอีกระลอก
ต่อไปนี้หล่อนจะเลิกชอบนิยายที่พระเอกเป็นเจ้าของไร่โหดเถื่อนอย่างเด็ดขาด!
ปฏิภาณใช้มือแกร่งรวบมือของหล่อนไว้อย่างรำคาญ
แล้วโน้มหน้าลงชิดริมฝีปากจนลมหายใจปะทะลมหายใจ
หญิงสาวตวัดสายตามองหน้าหล่อคมอย่างเกรี้ยวกราด
พยายามสะบัดแขนให้หลุดจากพันธนาการของเขา
“ปล่อยฉันนะ!”
“ถ้าไม่เลิกอาละวาด
ผมจะจูบอีก!”
“คนบ้า” หล่อนยังก่นด่า
ใบหน้าหวานแดงก่ำ ดวงตาเคืองขุ่นวาวโรจน์
“ถ้าไม่เชื่อก็ลองดู...” เขาขู่ซ้ำ
คำขู่ของเขาได้ผลชะงัดเพราะทำให้รามาวตีหยุดดิ้นในทันที
“ว่าง่ายดีนี่”
ปฏิภาณหลุบตาลงมองริมฝีปากนุ่มนิ่มราวกับกลีบดอกไม้ซึ่งเขารู้ดีว่าหอมหวานแค่ไหนเพราะเพิ่งชิมรสด้วยปากตนเองมาหมาดๆ
หญิงสาวหน้าแดงระเรื่อ
อาศัยจังหวะนั้นผลักเขาออกห่างแล้วรีบหันหลังเดินแกมวิ่งหนีทันที
ดวงตาคมเข้มมองตามหลังร่างอรชรนั้นอ่อนโยนลง
และคลี่ยิ้มบางๆ ออกมา โดยที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น...
# | ชื่อตอน | ||
---|---|---|---|
1 | คู่หมั้นจำเป็น | 0 | |
2 | เล่ห์รามาวตี | 0 | |
3 | นายหญิงฝึกหัด | 0 | |
4 | หวานรักรามาวตี | 0 | |
5 | อุ่นไอรักซาตาน | 0 | |
6 | เปลวไฟในน้ำแข็ง | 0 | |
7 | หนุ่มเจ้าเสน่ห์ | 0 | |
8 | เล่ห์ปฏิภาณ | 0 | |
9 | ห้วงเสน่หารามาวตี | 0 | |
10 | หวานล้ำสิเน่หา | 0 | |
11 | กรุ่นกลิ่นเสน่หา | 0 | |
12 | เสน่หายามอุษาสาง | 0 | |
13 | คู่หมั้นเจ้าเสน่ห์ | 0 | |
14 | แค่เอื้อม | 0 | |
15 | บางคนแคร์ แคร์บางคน | 0 | |
16 | ซาตานอ้อนรัก | 0 | |
17 | มดใกล้น้ำตาล | 0 | |
18 | น้ำผึ้งกลางพายุ | 0 | |
19 | ทัณฑ์เสน่หาซาตาน | 2 | |
20 | ซาตานหวานรัก | 0 | |
21 | ซาตานร้ายรัก | 0 | |
22 | ทางรักสีน้ำผึ้ง | 0 | |
23 | รัก...เอย | 0 | |
24 | สุดเสน่หา | 0 | |
25 | บทส่งท้าย ขอบคุณที่รักกัน | 0 |